น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)
เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายปี 2547 มหาเถรสมาคม(มส.) เคยมีมติจะส่งผู้แทน
มส.ลงไปเยี่ยมวัดและสำนักสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี
จากปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้กำลังใจพระภิกษุสงฆ์ที่ยังวิตกกังวลเกรงว่าจะถูกลอบทำร้าย
ต่อมาเกิดเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิ ทำให้พื้นที่
6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามันได้รับความสูญเสียเป็นอย่างมาก ดังนั้น
มส.จึงเห็นสมควรจัดส่งผู้แทน มส.ลงพื้นที่ภาคใต้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
พร้อมกับลงเยี่ยมวัดและสำนักสงฆ์ที่ประสบภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิ รวมทั้งเห็นชอบให้
พศ.เสนอของบประมาณจากรัฐบาลจำนวน 46 ล้านบาท เพื่อชดเชยพระสงฆ์บาดเจ็บ-มรณภาพจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ
และเป็นค่าซ่อมแซมวัดและเมรุเผาศพ เนื่องจากระยะนี้ต้องใช้ฌาปนกิจและเผาศพเป็นจำนวนมาก
ทำให้เมรุเกิดความเสียหาย ขณะเดียวกัน จากตรวจสอบสภาพภายในวัดย่านยาว
อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สถานที่เก็บศพเป็นจำนวนมาก พบว่าการทำความสะอาดพื้นที่รอบบริเวณวัดให้สะอาดดังเดิม
จะต้องนำดินใหม่มาฝังกลบพื้นที่วางศพให้สูงประมาณ 1 เมตร โดยจะขอความร่วมมือให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขและกรมที่ดิน
ช่วยทำการฟื้นฟูทำความสะอาดวัดย่านยาวต่อไป
ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวต่อว่า
มส.มีมติให้บอกบุญไปยังทุกวัดทั่วประเทศ รวบรวมปัจจัยจากประชาชนผู้มีจิตศรัทธา
เพื่อจัดตั้งกองทุนพิเศษสงเคราะห์วัด พระสงฆ์และชาวบ้านที่ประสบภัยสึนามิ
โดยจัดตั้งเป็นกองทุนระยะยาว โดยบริจาคผ่านวัด และให้แต่ละวัดรวบรวมปัจจัยส่งผ่านเจ้าคณะใหญ่หนต่างๆ
ที่ดูแลรับผิดชอบแต่ละภาค นำมาส่งยังส่วนกลาง โดยตั้งเป้าปัจจัยไว้เกินจำนวน
50 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากได้รับปัจจัยบริจาคเป็นจำนวนมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้
อาจมีการจัดตั้งมูลนิธิช่วยเหลือพระ วัดและชาวบ้านในจังหวัดภาคใต้
ในนามของ มส. สำหรับเงินกองทุนพิเศษสงเคราะห์วัด พระสงฆ์และชาวบ้าน
นอกจากจะนำไปช่วยเหลือพระสงฆ์และผู้ประสบภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิแล้ว
ยังได้แบ่งจัดสรรไปช่วยเหลือวัดและพระสงฆ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
|