น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)
เปิดเผยว่า จากการสำรวจพื้นที่ความเสียหายของวัด ที่พักสงฆ์ และจำนวนพระสงฆ์มรณภาพจากกรณีเกิดธรณีพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิถล่มใน
6 จังหวัดภาคใต้พบว่า มีวัดได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม มีพระสงฆ์มรณภาพและร่วมทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย
โดยเฉพาะวัดกลายเป็นที่เก็บศพทั้งศพชาวไทย ชาวต่างชาติ ต่างศาสนา จำนวนมาก
พระสงฆ์ต้องทำงานสวดฌาปนกิจและเผาตลอดเวลา
น.พ.จักรธรรมกล่าวว่าวัดหลักแก่น อ.ท้ายเหมือง
จ.พังงา เผาศพไม่ได้หยุด ทำให้ปล่องควันเมรุระเบิด ทางวัดต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีเผาด้วยยางรถยนต์
จึงเร่งของบประมาณจากรัฐบาล เพื่อฟื้นฟูบูรณะวัด สำนักสงฆ์และเตาเผาศพต่างๆ
รวมถึงเงินชดเชยให้กับพระที่มรณภาพรวมทั้งสิ้น 46 ล้านบาท ขณะนี้ พศ.
ได้เสนอแผนฟื้นฟูใน 3 แนวทางคือ 1.ระหว่างที่ยังทำการสำรวจข้อมูลและรายละเอียดความเสียหายของทรัพย์สินของวัด
จะต้องพิจารณาตำแหน่งที่ตั้งของอาคารเสนาสนะที่เหมาะสมใหม่ 2.จัดกลุ่มเป้าหมายเพื่อตรวจเยี่ยมปลอบขวัญและสร้างกำลังใจโดยคณะสงฆ์
และ 3.การบริหารเงินบริจาคที่ได้รับผ่านคณะสงฆ์ โดยตั้งคณะกรรมการในแต่ละจังหวัด
มีพระเทพปริยัติเมธี เจ้าคณะภาค 7 เป็นที่ปรึกษา เจ้าคณะจังหวัด เป็นประธาน
เจ้าคณะอำเภอต่างๆ เป็นกรรมการ ผู้แทนส่วนราชการ เพื่อควบคุมดูแลเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามระเบียบและช่วยเหลือประชาชนโดยไม่แบ่งแยกศาสนา
ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวต่อว่า
พศ. ได้สรุปความเสียหายล่าสุดดังนี้ จังหวัดระนอง ตรัง สตูล กระบี่
ไม่มีความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของพระภิกษุสงฆ์ แต่ได้ให้การสงเคราะห์ฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิต
ที่พักและอาหารต่อผู้ประสบภัย ส่วนจังหวัดภูเก็ตมีพระสงฆ์มรณภาพ 3
รูป ได้แก่ พระเต็กก้วน ปสนฺนจิตฺโต พระนพ เขมจาโร พระวันทา อาภากโร
พระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บ 2 รูป ได้แก่ พระพูนสวัสดิ์ ฐานวุฑฺโฒ รักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต
และพระพิทักษ์ กตภิญโญ รักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต มีทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น
8,094,900 บาท และสุดท้ายจังหวัดพังงา มีพระภิกษุมรณภาพอีก 2 รูป คือ
พระปัญญา ธีรปญโญ และพระสุวัฒน์ ทีปโก มีทรัพย์สินได้
|