ในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งหนึ่ง
มีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น และมีเหล่าแมลงอาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้มากมายหลายชนิด
เช่น ยายแมลงปอ ลุงแมลงหวี่ ป้าตั๊กแตน พี่แมลงทับ เป็นต้น แมลงทุกตัวต่างก็รักใคร่กันเหมือนพี่เหมือนน้อง
และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
แมลงทั้งหมดนี้อยู่ในความปกครองของพระราชาผีเสื้อผู้สง่างาม
พระองค์มีปีกสีทองส่องประกายแพรวพราว และที่สำคัญ พระราชาผีเสื้อมีของวิเศษอย่างหนึ่งที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ
นั้นก็คือ "ไม้ประกายเพชร" ซึ่งทำด้วยทองคำแท้อันมีอำนาจวิเศษ
สามารถเนรมิตสิ่งต่างๆ ได้ทุกอย่างตามพระราชประสงค์ของพระราชาผีเสื้อ
พระราชาผีเสื้อ ทรงมีพระสหายชื่อว่า
"แมลงเพชร" เป็นผู้ที่มีความสามารถมาก
และมีความจงรักภักดีต่อพระราชาผีเสื้อ ได้กระทำความดี้เป็นที่ถูกพระทัยของพระราชาจึงได้รับพระราชทานชื่อจากพระราชา
แมลงเพชรมีรูปร่างเล็ก ปีกสีเงิน บินได้สูงและรวดเร็วมาก เป็นที่เกรงขามของเหล่าแมลงอื่นๆ
ยิ่งนัก
ต่อมาพระราชาผีเสื้อ ได้มีคำสั่งลับเฉพาะกับแมลงเพชรพระสหายสนิทว่า
"แมลงเพชร
ข้าจะให้เจ้ายืมไม้เท้าประกายเพชรของข้าไป และข้าขอให้เจ้าช่วยดูแลแมลงทั้งหลายแทนข้าสักระยะหนึ่ง
โดยมีข้อแม้ว่า ห้ามนำไม้ประกายเพชรไปสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นโดยเด็ดขาด
เจ้าจำไว้ให้ดีนะ"
"เป็นพระมหากรุณาธิคุณพระพุทธเจ้าข้า
ข้าพระพุทธเจ้า จะไม่ทำให้พระองค์ผิดหวัง ถ้าข้าพระพุทธเจ้าผิดสัญญา
ขอให้พระองค์ทรงลงโทษได้เลยพระพุทธเจ้าข้า"
แมลงเพชรรับคำพร้อมกับให้สัญญา
จากนั้นแมลงเพชรก็ออกไปเที่ยวเยี่ยมเยียนแมลงอื่นๆ
พร้อมกับนำไม้เท้าประกายเพชรไปด้วยเสมอ
ตั้งแต่ได้รับมอบพระราชอำนาจจากพระราชาผีเสื้อ
นิสัยของแมลงเพชรก็เปลี่ยนไป เริ่มเย่อหยิ่งจองหอง ไม่ทักทายลุงแมลงหวี่
ยายแมลงปอเหมือนเช่นเคย ทำให้ยายแมลงปอสงสัยมาก จึงเอ่ยปากถามแบบหยอกล้อแมลงเพชรว่า
"ไงแมลงเพชรหมู่นี้เป็นอะไรไปหรือ
ไม่เห็นทักทายกันบ้างเลย กรือว่าถูกพระราชาลงโทษมา หน้าตาไม่ค่อยสบายเลยนี่"
แมลงเพชรเมื่อได้ฟังยายแมลงปอพูดดังนั้น
มันรู้สึกโกรธมาก จึงใช้ไม้เท้าประกายเพชรชี้ไปที่ยายแมลงปอแล้วพูดขึ้นว่า
"จงเป็นรูปปั้นเดี๋ยวนี้"
พอแมลงเพชรพูดขาดคำ ยายแมลงปอก็กลายร่างเป็นรูปปั้นทันที
"บังอาจมาพูดล้อเล่นกับข้า
จึงต้องได้รับโทษเช่นนี้" แมลงเพชรพูดพลางหัวเราะแกมเยาะเย้ย
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็มีรูปปั้นของแมลงต่างๆ
เพิ่มจำนวนขึ้นทุกวัน ป่าที่เคยร่มเย็นเป็นสุขและอยู่กันอย่างเงียบสงบ
บัดนี้กลับกลายเป็นป่าแห่งความลึกลับ เงียบเหงาน่าสะพึงกลัว ปราศจากเสียงหัวเราะหยอกล้อกันดังเช่นแต่ก่อน
แมลงทับตัวหนึ่งรู้สึกหดหู่ใจมากที่เห็นพวกแมลงด้วยกัน
ต้องถูกกลั่นแกล้งรังแกจากแมลงเพชร จึงได้เอ่ยปากปรึกษากับป้าตั๊กแตนว่า
"ป้าตั๊กแตนครับ
เราจะทำอย่างไรกันดี จึงจะกำจัดเจ้าแมลงเพชรจอมอันธพาลให้พ้นไปจากป่าของเราได้ครับ"
"คงจะยากหลานเอ๋ย
เพราะเจ้าแมลงเพชรมีไม้เท้าวิเศษอยู่ในมือของมัน ขืนใครไปต่อปากต่อคำมันเข้า
ก็ต้องถูกสาปให้กลายเป็นรูปปั้นไปหมด เจ้าก็เห็นอยู่แล้วมิใช่หรือ"
"ถ้าพวกเราทั้งหมดจะรวมตัวกันไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพระราชาผีเสื้อ
ให้ทรงทราบถึงความเดือดร้อนของพวกเรา ป้าว่าจะดีไหมครับ"
แมลงทับออกความเห็น
"เออก็น่าจะลองดูเหมือนกันนะหลาน
เพราะพระราชาท่านจะได้ทรงรู้ความจริงว่า ผู้ที่พระองค์ท่านทรงไว้วางพระทัยให้ดูแลพวกเราแทนพระองค์ท่าน
มีความประพฤติชั่วช้าเพียงใด" ป้าตั๊กแตนสนับสนุน
เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วแมลงทับและป้าตั๊กแตนก็พาสมัครพรรคพวกแมลงทั้งหลายในป่า
เข้าไปร้องทุกข์ต่อพระราชาปีเสื้อ ว่าถูกแมลงเพชรข่มเหงรังแกต่างๆ
นานา จนได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส
เมื่อพระราชาผีเสื้อทรงทราบเช่นนั้น
จึงได้ให้ไปตามตัวแมลงเพชรเข้าเฝ้า พร้อมกับให้นำไม้เท้าประกายเพชรมาคืนด้วย
"ว่าไงแมลงเพชร พวกแมลงทั้งหลายเขาได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ
เจ้าได้ข่มเหงรังแกพวกเขาเป็นความจริงหรือไม่" พระราชาผีเสื้อทรงถาม
แต่แมลงเพชรก้มหน้านิ่งไม่ตอบ พระราชาจึงตรัสต่อไปว่า
"นี่แสดงว่าเป็นจริงอย่างที่เขาฟ้องร้องมาใช่ไหม
เจ้าถึงก้มหน้านิ่งเฉยอยู่"
"หามิได้พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าไม่เคยข่มเหงใครเลย
พวกเขานั้นแหละข่มเหงรังแกกันเอง แล้วโยนความผิดมาให้ข้าพระพุทธเจ้า"
แมลงเพชรปฏิเสธ
"ยังมาทำปากแข็งอีก ก็พวกแมลงต่างๆ
เขาจะมีปัญญาสาปให้แมลงด้วยกันกลายเป็นรูปปั้นได้หรือ ก็มีแต่เจ้าเท่านั้นแหละที่มีไม้เท้าประกายเพชรของข้า
เจ้ายอมรับมาเสียดีๆ ก่อนที่ข้าจะโมโห"
"ข้าพระพุทธเจ้าขอยอมรับผิด และขอพระองค์จงทรงพระราชทานอภัยโทษให้ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า"
แมลงเพชรพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
"ข้าคงยกโทษให้เจ้าไม่ได้หรอก
เพราะเจ้าได้เคยให้สัญญาไว้แก่ข้าแล้วว่า เจ้าจะไม่ใช้ไม้ประกายเพชรของข้าไปสร้างความเกืดร้อนให้แก่ผู้อื่น
เจ้าไม่รักษาคำพูดอีกทั้งมีความเย่อหยิ่งลืมตัว เจ้าควรจะได้รับโทษอย่างหนัก"
"พระราชอาญาไม่พ้นเกล้าพ้นกระหม่อม
แล้วแต่พระองค์ จะทรงพิจารณาโทษเถิดพระพุทธเจ้าข้า"
"เอาละข้าจะสาบเจา้ให้กลายเป็นแมลงที่น่าเกลียด
มีรูปร่างอัปลักษณ์ โดยให้ร่างของเจ้ามีสีดำ บินได้ต่ำๆ ระยะใกล้ๆ
และมีกลิ่นตัวเหม็นสาบ เป็นที่รังเกียจของคนทั่วไป เจ้าจงเป็นแมลงอัปลักษณ์
ณ บัดนี้ เพี้ยง!" พระราชาผีเสื้อตรัสแล้วก็ใช้ไม้เท้าประกายเพชรชี้ไปที่แมลงเพชร
แมลงเพชรก็กลับกลายร่างเป็นแมลงอัปลักษณ์ตามคำสาบทันที
เวลาที่มันไปไหนก็จะถูกสัตว์อื่นๆ พูดจาเยาะเย้ยถากถาง และเรียกมันว่า
"แมลงถูกสาป" มันรู้สึกอับอายเป็นที่สุดแต่ก็ต้องทนรับทุกข์ต่อไป
ในเวลาต่อมาชื่อของมันก็ถูกเรียกให้สั้นลงว่า "แมลงสาบ"
จนถึงทุกวันนี้
ส่วนแมลงต่างๆ ที่ถูกแมลงเพชรสาปให้เป็นรูปปั้น
พระราชาผีเสื้อได้ใช้ไม้เท้าประกายเพชรชี้และเสกให้กลายร่างดังเดิมทั้งหมด
แมลงทั้งหลายต่างอยู่ร่วมกันในป่านั้นอย่างมีความสงบสุข
|