มีครอบครัวอยู่สองครอบครัว
ครอบครัวหนึ่งคนในครอบครัวนั้นใจดี มีความเมตตากรุณาเื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ส่วนอีกครอบครัวนั้นใจร้าย มีแต่ความคิดอิจฉาริษยา เห็นแก่ตัว
มีเทวดาองค์หนึ่งอยากทราบถึงสภาพชีวิตจิตใจของคนในเมืองมนุษย์ว่า
มีจิตใจดีหรือใจร้ายอยู่มากน้อยเพียงใด จึงได้เสด็จลงมายังเมืองมนุษย์โดยแปลงเป็นพระธุดงค์
เมื่อถึงเมืองมนุษย์ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายแล้ว
ก็ตรงไปยังบ้านของคนใจร้าย พบสองสามีภรรยาอยู่ที่บ้านพอดี จึงเอ่ยขึ้นว่า
"โยม อาตมาขอน้ำฉันสักขันหนึ่งเถอะ
อาตมาเดินทางมาไกลรู้สึกกระหายน้ำจังเลย"
"น้ำที่บ้านฉันไม่มีเลยท่าน นิมนต์ไปขอที่บ้านอื่นเถอะ"
"อย่างนั้นขออาตมาปักกลดอยู่ในบริเวณบ้านของโยมหน่อยจะได้ไหมโยม"
"คงไม่ได้หรอกท่าน เพราะบริเวณบ้านของฉันมันคับแคบ
ไม่มีที่พอจะให้ท่านปักกลดได้หรอก"
"งั้นก็ไม่เป็นไร อาตมาลาก่อนละนะโยม"
ว่าแล้วพระธุดงค์ก็เดินออกจากบ้านสามีภรรยาใจร้ายไปด้วยความผิดหวัง
คิดในใจว่า "นี่หรือน้ำใจของมนุษย์ที่มักแสดงตนว่าตนเองเป็นสัตว์ประเสริฐ"
พระธุดงค์ก็เดินทางต่อไป จนถึงบ้านของคนใจดีสองสามีภรรยาเห็นพระธุดงค์เข้า
ก็รีบลงจากบ้านมายกมือไหว้ แล้วพูดกับพระธุดงค์ว่า
"พระคุณเจ้าจะไปไหนหรือครับ นิมนต์ขึ้นบนบ้านก่อนครับ"
สามีพูด
"ขอบใจมากโยม อาตมาธุดงค์มาเพื่อโปรดญาติโยมนี่แหละ"
"ขอบพระเดชพระคุณท่านมาก ที่ได้เมตตามาโปรดถึงที่นี่
ขอท่านได้ฉันน้ำแก้กระหายก่อนครับ" สามีพูดพร้อมกับยกน้ำขึ้นถวาย
แล้วพูดต่อไปว่า
"คืนนี้ ผมขอนิมนต์ท่านปักกลดอยู่ที่นี่ก่อน
อย่าเพิ่งธุดงค์ไปไหนนะครับ เพื่อผมสองคนจะได้มีโอกาสได้ทำบุญบ้าง"
"ขอบใจมากจ้ะโยม
โยมมีน้ำใจต่ออาตมามากเหลือเกิน อาตมาจะไม่ลืมบุญคุณของโยมเลย"
พระธุดงค์พูด
คืนนั้นพระธุดงค์ได้ปักกลดอยู่ในบริเวณบ้านของสามีภรรยาผู้ใจดีนั้น
ครั้นถึงรุ่งเช้า สองสามีภรรยาได้นำอาหารมาถวายพระธุดงค์ เมื่อพระธุดงค์ฉันอาหารเสร็จแล้ว
ก้ได้ให้พรสองสามีภรรยา และท่านได้พูดกับสองสามีภรรยาผู้มีน้ำใจว่า
"โยม ก่อนที่อาตมาจะจากโยมไป อาตมาไม่มีสิ่งใดจะตอบแทนในน้ำใจอันประเสริฐของโยม
นอกจากต้นไม้ต้นนี้ ขอให้โยมนำไปปลูกดูแลให้ดีเถิด" พระธุดงค์พูดแล้วก็ส่งต้นไม้นั้นให้สามีคนใจดี
เมื่อพระธุดงค์จากไปแล้ว สองสามีภรรยาแห่งบ้านคนใจดีก็นำต้นไม้นั้นไปปลูกไว้ใกล้ๆ
บ้านของตน ชั่วเวลาเพียง ๗ วันเท่านั้น ต้นไม้วิเศษต้นนั้นก็โตวันโตคืน
โตจนโอบไม่รอบ สองสามีดีใจมากจึงปรึกษากันว่าจะอาต้นไม้นั้นไปทำอะไรดี
ในที่สุดก็ตกลงโค่นต้นไม้นั้น แล้วนำมาทำครกกับสากตำข้าว
พอทำเสร็จแล้วก็เอาข้าวมาตำ ข้าวกระบุงหนึ่งตำมาออกได้หลายสิบกระบุง
ยิ่งตำข้าวมากก็ยิ่งออกมามากออกมาไม่หยุด ทำให้สองสามีภรรยาแห่งบ้านคนใจดีร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เป็นคนมีอันจะกิน มีฐานะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
เรื่องครกตำข้าวของบ้านคนใจดี ได้ลือไปถึงบ้านของคนใจร้ายสองสามีภรรยา
บ้านคนใจร้ายจึงคิดอยากจะได้ครกวิเศษลูกนั้นมาตำข้าว จะได้ร่ำรวยอย่างครอบครัวของคนใจดีบ้าง
เมื่อคิดดังนั้นแล้วจึงตรงไปยังบ้านของคนใจดีทันที
ครั้นถึงภรรยาของบ้านคนใจร้ายก็เอ่ยขึ้นว่า
"นี่ท่านทั้งสอง ฉันขอยืมครกกับสากของท่านไปตำข้าวที่บ้านของฉันสักวันจะได้ไหมจ้ะ"
"ได้สิจ้ะ อย่าว่าแต่วันเดียวเลย
จะยืมกี่วันก็ได้ ตำข้าวเสร็จเมื่ไรก็นำเอามาคืนก็แล้วกัน ฉันไม่หวงหรอก"
ภรรยาบ้านคนใจดีพูด
"อย่างนั้นก็ขอบใจท่านทั้งสองมาก
ที่ได้ให้ครกกับสากฉันขอยืม ฉันลาก่อนละนะ อีกสองสามวันจะเอามาคืน"
ภรรยาบ้านคนใจร้ายพูด แล้วก็ช่วยกันกลิ้งครกไป
เมื่อถึงบ้านของตน ทั้งสองสามีภรรยาบ้านคนใจร้ายก็รีบนำข้าวเปลือกมาตำ
ตอนแรกทดลองใส่ข้าวไปหนึ่งกระบุงก่อนแล้วก็ลงมือตำ
ตำไปได้สักพักปรากฏว่าข้าวหดตัว ลดเหลือเพียงครึ่งกระบุง
จึงใส่ข้าวเปลือกลงไปสองกระบุง ตำแล้วข้าวหดตัวเหลือเพียงหนึ่งกระบุง
ยิ่งเอาข้าวมาตำมากเท่าไหร่ ข้าวก็หดลดน้อยลงเท่านั้น จนทั้งสองสามีภรรยาไม่กล้าเอาข้าวมาตำอีก
ด้วยความโกรธสองสามีภรรยาแห่งบ้านคนใจร้าย
จึงช่วยกันเอามีดมาผ่าครกกับสากที่ขอยืมมาจากบ้านคนใจดีจนแหลกใช้การไม่ได้
ฝ่ายสองสามีภรรยาแห่งบ้านคนใจดี เมื่อทราบข่าวว่า
ครกกับสากของตน ที่คนใจร้ายขอยืมไปนั้น ถูกฟันทำลายจนแหลกใช้การไม่ได้
ก็เดินทางไปยังบ้านของคนใจร้าย พบเศษครกกับสากทิ้งอยู่เกลื่อนก็เก็บเอาทั้งหมด
แล้วนำกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้านแล้ว
สองสามีภรรยาบ้านคนใจดีก็ปรึกษากันว่า จะนำเศษไม้มาทำอะไรกันดี ในที่สุดก็ตกลงว่าจะทำหีบใส่ของ
ชั่วเวลาไม่นาน ทั้งสองสามีภรรยาก็ช่วยกันทำหีบไม้ได้สำเร็จดังใจ
เมื่อได้หีบไม้มาแล้วก็นำเอาเงินและทองที่เก็บสะสมมาเป็นเวลานาน
ซึ่งมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นใส่ลงไปในหีบ
ครั้นวันรุ่งขึ้น ได้นำหีบมาเปิดดูก็พบทองคำเต็มหีบ
ทั้งสองสามีภรรยาบ้านคนใจดีจึงร่ำรวยยิ่งขึ้น
เรื่องหีบวิเศษของบ้านคนใจดีได้ลือไปถึงบ้านของคนใจร้ายอีกเช่นเคย
สองสามีภรรยาบ้านคนใจร้าย จึงคิดอยากจะได้หีบวิเศษนั้นมาใส่เงินทองของตน
จะได้ร่ำรวยอย่างครอบครัวของคนใจดีบ้าง
เมื่อคิดดังนั้นแล้วจึงตรงไปยังบ้านคนใจดีทันที
ครั้นถึงภรรยาของบ้านคนใจร้ายก็เอ่ยขึ้น
"นี่ท่านทั้งสอง ฉันขอยืมหีบของท่านไปใส่เงินใส่ทองบ้างจะได้ไหม๊
ฉันอยากจะรวยอย่างท่านทั้งสองบ้าง"
"ได้สิจ้ะ ฉันไม่หวงหรอก แต่อย่าทำลายหีบของฉันอีกก็แล้วกัน"
ภรรยาบ้านคนใจดีพูด
"จ๊ะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก
ถ้าท่านให้ฉันขอยืม"
"เอ๊า
นี่หีบ เมื่อเธอเสร็จธุระแล้วก็รีบนำมาส่งฉันก้แล้วกัน" ภรรยาบ้านคนใจดีพูด
พร้อมส่งหีบไม้ให้กับภรรยาบ้านคนใจร้าย ทั้งสองสามีภรรยาบ้านคนใจร้ายเมื่อได้หีบแล้วก็รีบนำกลับมายังบ้านของตนทันที
เมื่อถึงบ้านก็รีบนำเงินและทองที่เก็บสะสมมาทั้งหมดใส่ลงในหีบ
แล้วปิดหีบนำไปเก็บไว้
พอรุ่งเช้าก็รีบนำหีบมาเปิดออกดู ในใจทั้งสองคนคิดว่าคงจะมีทองคำเต็มหีบอย่างแน่นอน
แต่เหตุการณ์กลับตรงกันข้าม ปรากฏว่าในหีบใบนั้นมีแต่ก้อนหินเต็มไปหมด
ทั้งสองสามีภรรยาบ้านคนใจร้ายเห็นดังนั้น
ต่างหน้ามืดจะเป็นลมด้วยความโกรธ จึงหยิบหีบใบนั้นทุ่มลงกับพื้นจนหีบแตกกระจาย
เพราะหีบวิเศษทำให้เขาประสบหายนะล่มจม เงิรทองที่หามาได้ตลอดชีวิตไม่มีเหลือเลย
กลายเป็นหินไปหมดนั่นเอง
|