Warning: file(../ad468.txt): failed to open stream: No such file or directory in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/randomad468.php on line 4
 
 
หน้าแรก บทความธรรมะ
Search By Google

แผ่เมตตา

โดย : นายภัครวัฒน์ ดวงงาม, ธรรมะไทย
วันที่ online : ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๔๘


     คุณลักษณะของคนที่ชอบทำบุญ มีอยู่ประการหนึ่ง ที่เหมือน ๆ กัน ก็คือ หลังจากไปสร้างคุณงามความดี หรือไปอิ่มบุญมาด้วยการบำเพ็ญกุศลต่าง ๆ จะด้วยวิธีใด และที่แห่งหนตำบลใดมาแล้วก็ตาม สิ่งที่ลงเอยเหมือนกันคือ คนที่เขาใจบุญจริง ๆ เขามักไม่เก็บบุญ หรือขี้เหนียวบุญไว้เชยชมเพียงผู้เดียว แต่เขาจะมีวิธีการขยายบุญหรือดับเบิลบุญให้มากทวีคูณยิ่งขึ้น ในที่นี้ขอเรียกว่า "แผ่เมตตา"
     การแผ่เมตตามีวิธีทำอย่างไร ?
     มีขอบเขตแค่ไหนเพียงไร ?
     และมีประโยชน์กี่มากน้อย ?

     ตรงนี้มีคำตอบ ครับคำตอบก็คือ พระพุทธเจ้าตอบ(ตรัส)ว่า เบื้องต้นเลย เราต้องตั้งใจ(จิต)ปรารถนาให้ผู้อื่น สัตว์อื่นให้มีความสุข ไม่ว่าเป็นเชื้อชาติ ลัทธิ ศาสนาใดก็ตาม หรือไม่ว่าคนๆ นั้น สัตว์นั้น จะเคยทำให้เราพอใจหรือไม่ก็ตามเถอะ เราควรจะมีจิตดวงเดียวแผ่เมตตา ให้ความรัก ความเอ็นดูจากดวงจิตอันใสสะอาด อย่างเท่าเทียมกัน เสมือนหนึ่งเป็นพ่อแม่ เป็นคนรักของเรา ถึงแม้คนที่เราเคยอาฆาตพยาบาทว่าชาตินี้ทั้งชาติหรือจะชาติไหน ๆ จะต้องล้างแค้นให้ได้ก็ตามที พระองค์บอกว่า ...ควรแผ่เมตตาให้เสมอภาค กระผมเชื่อว่าตรงนี้เป็นเรื่องยากสำหรับคู่กรณีบางท่าน แต่ถ้าเราทุกคนเชื่อในคำสอนพระพุทธเจ้าก็ทำไปเถอะครับ เพราะทำไปแล้วชีวิตนี้มีแต่ได้กับได้ ไม่เห็นมีทางเสียเลย

     ส่วนคำแผ่เมตตามีอยู่หลายบท ทั้งแบบสั้น และแบบยาว ด้วยเนื้อที่จำกัดจึงขอแบบสั้น ๆ เท่านั้น

คำแผ่เมตตาที่ใช้ในวงกว้าง

"สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ" แปลว่า

ขอสัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น
จงเป็นสุข ๆ เถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย,
จงเป็นสุข ๆ เถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย,
จงเป็นสุข ๆ เถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์(ลำบาก)ใจเลย
จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
ท่านทั้งหลายที่ได้ทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ได้สุข ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป

คำแผ่เมตตาที่ระบุชื่อวงจำกัดเช่นบิดามารดา ญาติ ครู อุปัชฌาอาจารย์ พระภูมิเจ้าที่และอื่นๆ ตัวอย่างเช่น.

     1. อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร แปลว่า ขอบุญนี้จงสำเร็จแก่มารดาบิดา
ของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข

     2. อิทัง โน (เม) ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหตุ ญาตะโย แปลว่า ขอบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงเป็นสุข ๆ เถิด

     3. อิทัง เม คะรุปัชฌายาจะริยา นัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คะรุปัชฌายาจริยา ฯ แปลว่า ขอบุญนี้ จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า จงมีความสุข

     4. อิทัง เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ เทวะตาโย ฯ แปลว่า ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลาย ขอให้เทวดาทั้งหลาย จงมีความสุข

     5. อิทัง เปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ เปตาฯ แปลว่า ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จ แก่เปตรทั้งหลาย ขอให้เปรตทั้งหลาย จงมีความสุข

     6. อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรีฯ แปลว่า ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงมีความสุข

ครับผมได้นำตัวอย่างการแผ่เมตตาแบบสั้น ๆ มาฝากให้อ่านเล่น ๆ กันแล้วหวังว่าท่านจะหยิบ
ไปใช้ในโอกาสที่อำนวยกันบ้างนะครับ …..ที่นี้อยากพูดถึงประโยชน์ของการแผ่เมตตาบ้าง

ประโยชน์จากการแผ่เมตตา

ผู้ที่เจริญเมตตาธรรมอยู่เสมอ ๆ จนจิต ติดมั่นในเมตตา มีเมตตาเป็นสมบัติ(อารมณ์) ประจำใจ
อันดับแรก ทำให้ตัวเองมีความสุขสงบ สว่าง โปร่งโล่ง ไร้ปัญหาติดขัดนานาประการตลอดชีวิต
อันดับต่อมา ทำให้สังคมระดับรากหญ้า (ครอบครัว) และระดับประเทศ ระดับโลก ได้รับสันติสุขแท้จริง ถาวรอย่างไม่เปลี่ยนแปลง

ประโยชน์การแผ่เมตตาที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้มี 11 ประการได้แก่
     1. (ทำให้)หลับก็เป็นสุข
     2. ตื่นก็เป็นสุข
     3. ไม่ฝันร้าย
     4. เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย
     5. เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย (ผี เปรต อสุรกาย วิญญาณต่าง ๆ )
     6. เทวดาทั้งหลายย่อมคุ้มครอง
     7. แคล้วคลาดจากภยันอันตราย
     8. จิตเป็นสมาธิได้ง่าย
     9. สีหน้าย่อมผ่องใส
     10. เมื่อจะตายใจก็สงบ(สู่สุคติภูมิ)
     11. ถ้ายังไม่บรรลุคุณธรรมพิเศษที่สูงกว่า ย่อมเข้าถึงชั้นพรหม

ครับทั้งหมดนี้คือ ผลที่ได้จากการแผ่เมตตา ถ้าท่านเห็นว่า ดี มีประโยชน์ทั้งส่วนตัว และส่วนรวม ลงมือปฏิบัติ สิครับ อีกทั้งได้ชื่อว่ารักษาพุทธเจตนารมย์ของพระพุทธองค์ที่ว่า " โลโกปัตถัมภิกา เมตตา" เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก…(เกิดจากการแผ่ให้)

 แสดงความคิดเห็น - คำแนะนำ
จำนวนคนอ่าน คน
 Sam San Francisco, California [17 มิ.ย. 2549 เวลา 14:53 น.]
  โมทนาอีกคนกับ พุทธศาสนิกชน ทุกท่าน ที่ แผ่เมตตา อยู่ที่นี่ ไม่ผิด กับอยู่ในป่า เพราะ คนส่วนใหญ่ไม่ใช่พุทธ และ เวลาตกระกำลำบาก คนช่วยไม่ค่อยมี หลังจาก พยายามแผ่เมตตาเป็นปกติ คนที่ไม่ต้องการช่วยเหลือยังมีอยู่ แต่ คนที่ยินดีช่วย มีมากขึ้น ประสพมากับตัวเอง แปลกแต่จริง

 ลูกกิ้ม (มาเยี่ยมกัลยาณมิตร) [8 มิ.ย. 2549 เวลา 12:07 น.]
  "รีบๆ ทำ ในสิ่งที่ เรายังไม่ได้ทำ" "ยิ่งมีบารมีธรรม ยิ่งเป็นคนดี" ปริญญาวัดความสำเร็จการศึกษา ศีล ๕ วัดความเป็นคนดี worawit.t@navy.mi.th หากยังรักษาศีล๕ ไม่ได้ เป็นคนไม่จริงจิตใจไม่ซื่อสัตย์ ยังไม่เป็นคนตั้งใจเป็นคนดีจริง ได้โปรดอย่าส่งมา ผู้นั้นไม่ใช่ไมตรีของเรา...(และไม่ใช่ศิษย์ของตถาคต)

 บุญเนิม [22 พ.ค. 2549 เวลา 20:00 น.]
  อนุโมทนาบุญ ด้วยค่ะ สาธุ

 ฟูฟู [16 พ.ค. 2549 เวลา 09:41 น.]
  อนุโมทนา สาธุ ด้วยค่ะ

 HeBeKi [15 พ.ค. 2549 เวลา 15:10 น.]
  เป็นบทความที่ดีมากเลยคับ ขอบคุณมากนะคับ จะเอาบทแผ่เมตตาไปใช้คับ ^^

 เจ-อาร์ [13 พ.ค. 2549 เวลา 05:36 น.]
  อนุโมทนา ด้วยครับ ขอแผ่เมตตา ให้แก่ ผู้มีพระคุณทั้งหลาย เทพเทวาทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรดังหลาย สาธุๆ

 นางฟ้าตัวน้อย^-^ [11 เม.ย. 2549 เวลา 16:07 น.]
  สาธุ....ดิฉันอยากให้ทุกๆคนในโลกนี้มีแต่ความสงบสุข ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ถ้าผู้บริหารประเทศไทย รู้จักการแผ่เมตตา ไม่คอร์รับชั่นประเทศไทย คงจาดีนะคะ

 ภัทรภร [14 มี.ค. 2549 เวลา 23:32 น.]
  ไหว้พระสวดมนต์แผ่เมตตาไหว้รูปพ่อและแม่ทั้งเช้า-เย็น (ท่านได้เสียไปนานแล้วทั้งสองท่าน)ทุกวันก่อนออกไปทำงาน(ราชการ)ได้ผลมาก

 รงรอง มณีแมน www.newyarung@thaimail.com [26 ก.พ. 2549 เวลา 17:21 น.]
  สาธุกับทีมงาน อยากให้ทุกคนชาวพุทธ มีเมตตาต่อกัน ไม่ทำร้าย เบียดเบียนซึ่งกันและกัน เมตตาตัวเองแล้ว เมตตาคนอื่น และคนรอบข้าง แล้วท่านพบสุข สงบ "สุขอื่นนอกจากความสงบไม่มี" ธรรมะสวัสดีค่ะ

 คนจร(ลำปาง) [22 ก.พ. 2549 เวลา 00:00 น.]
  ขออนุโมทนาด้วยจ้า ขอให้เจริญๆ บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น

 นิกเนม [22 ก.พ. 2549 เวลา 14:14 น.]
  การแผ่เมตตาให้เฉพาะคนที่ตายแล้วหรือเปล่าคะ

 อารัก [20 ก.พ. 2549 เวลา 09:32 น.]
  ดีมาก

 บานบุรี [20 ก.พ. 2549 เวลา 02:49 น.]
  ควรรักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์และเจริญพรหมวิหารสี่เป็นเนืองนิจด้วยนะคะ ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมค่ะ สาธุ

 สุดสวย [18 ก.พ. 2549 เวลา 20:32 น.]
  สาธุที่ทำแต่ความดีกันนะคะ***.............

 สาธุชน [10 ก.พ. 2549 เวลา 15:01 น.]
  สาธุ ค่ะ จะนำไปปฏิบัติ ค่ะ ขอให้อานิสงส์ที่เผยแพร่ เกี่่ยวกับเรื่องเจริญเมตตา มีความสุข เจริญๆค่ะก้าวหน้าสถาพร

 วลี [6 ก.พ. 2549 เวลา 12:43 น.]
  อนุโมธนาด้วยค่ะ

 นิวน่ารัก [25 ม.ค. 2549 เวลา 20:28 น.]
  บูชานานจังสั้นๆไม่ได้หรอค่ะ

 namman [25 ม.ค. 2549 เวลา 04:05 น.]
  อนุโมธนาด้วยครับ

 psanporn@yahoo.com [19 ม.ค. 2549 เวลา 20:08 น.]
  ขอบคุณใน ธรรมทาน จากทุกความคิดเห็น

 jem Oliver [8 ม.ค. 2549 เวลา 12:07 น.]
  Thank you.


   
*ชื่อ :
อีเมล :
*จังหวัด :
*ความคิดเห็น :
 
หน้าแรก พระพุทธศาสนา ประวัติพระพุทธสาวก หัวข้อธรรม ธรรมปฏิบัติ ศาสนพิธี วันสำคัญทางศาสนา ทศชาติชาดก วิทยุธรรมะไทย
พุทธศาสนสุภาษิต พจนานุกรมพุทธศาสน์ ทำเนียบวัดไทย คลังแสงแห่งธรรม พระพุทธศาสนาในเมืองไทย ข่าวธรรมะ กิจกรรมธรรมะ สมุดเยี่ยม
ธรรมะไทย - dhammathai.org [ Warning: include(../useronline.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/articles/028.php on line 595 Warning: include(../useronline.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/articles/028.php on line 595 Warning: include(): Failed opening '../useronline.php' for inclusion (include_path='.:/usr/local/lib/php') in /home/dhammathai/domains/dhammathai.org/public_html/articles/028.php on line 595 ]