สุดยอดวิถีแห่งการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ที่ถูกต้องตามธรรม


สุดยอดวิถีแห่งการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ที่ถูกต้องตามธรรม

วิปัสสนากัมมัฏฐาน เป็นภาษาบาลี แบ่งออกเป็น ๔ คำ คือ วิ + ปัสสนา + กัมมะ + ฐานะ อธิบายรากศัพท์ดังนี้

วิ คือ เป็นอุปสัคในอัพยยศัพท์ แปลว่า วิเศษ แจ้ง ต่าง

ทิสะ ธาตุ แปลว่า เห็น แปลง ทิสะ เป็น ปัสสะ ประกอบด้วยปัจจัยและวิภัตติ เป็น ปัสสนา แปลว่า การเห็น

เมื่อนำทั้ง ๒ คำมารวมกันจึงเป็น วิปัสสนา ซึ่งแปลว่า การเห็นโดยวิเศษ การเห็นแจ้ง การเห็นด้วยอาการต่างๆ เห็นการวิจัย เห็นการวิเคราะห์ เห็นการวิจารณ์ เห็นการกระทำของตนเองหรือบุคคลอื่น

กัมมะ แปลว่า การกระทำ พฤติกรรม

ฐาน แปลว่า พื้นฐานแห่งการตั้งอยู่

เมื่อนำมาร่วมกัน วิปัสสนากัมมัฏฐาน แปลว่า เห็นแจ้งพื้นฐานของการกระทำ, การทำให้แจ้งซึ่งฐานแห่งเหตุของการกระทำ เหตุทำให้เป็นผล เห็นแห่งการเกิด เกิดเป็นผล เป็นผลเป็นเหตุ เหตุแห่งเป็นผลต่อเนื่องเป็นไป โดยวิถีแห่งธรรมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

หัวใจวิปัสสนากรรมฐาน คือ เป็นการค้นหาตามความเป็นจริงอริยสัจ ๔ ด้วยยุทธศาสตรวิธีแห่งโยนิโสมนสิการ จากเริ่มต้นไปหาสุดท้าย และสุดท้ายวนกลับมาเป็นชั้นๆ ขึ้น นี่แหละ วิปัสสนากรรมฐาน

ฉะนั้น เราเข้าใจความหมายวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ถ้าเราไปนั่งหลับตาทำสมาธิแล้วไม่ต้องไปคิดอะไร แล้วจะกลายเป็นวิปัสสนากรรมฐานไม่ได้

พระพุทธเจ้าเจริญธรรมไปถึงขั้นที่ ๔ แล้วต้องถอยมาอยู่ขั้นที่ ๓ เพื่อที่จะมาวิเคราะห์วิจัยพิจารณาธรรม ถ้าเข้าสู่เอกัคคตาก็จะนิ่งดิ่ง ต้องมาสู่ขั้นที่ ๓ ถึงจะมาเคลื่อนได้

จุดเด่นของพระพุทธเจ้าก็คือหาอริยสัจ ๔

แล้วรูปแบบวิธีการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานต่างๆ เช่น พุทโธ พองหนอ ยุบหนอ สัมมาอะระหัง รูปนาม ฯลฯ อย่างนี้แล้วแต่รูป รูปไม่เหมือนกัน แต่เป้าหมายทิศทางเหมือนกัน เหมือนกับ เราจะเดินทางไปเหนือสุดยอดแดนสยาม ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เราหันหลังกลับก็มาที่ว่าการอำเภอแม่สายได้ แต่ถ้าเราเดินไปข้างหน้าข้ามด่านไปยังประเทศพม่า เดินรอบโลกแล้วค่อยมาถึงอำเภอแม่สาย อย่างนี้ก็ได้ ก็มาถึงเช่นกัน แต่จะเสียเวลา

แล้วทำไมมีรูปแบบการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานหลายสาย?

ก็เพราะว่าคนทั่วไปรู้จักแค่นั้นก็ได้แค่นั้น อยู่ที่ว่าเขาจะรู้จักตรงไหน

ยกตัวอย่างสายวิปัสสนา พองหนอ ยุบหนอ ดูลมหายใจท้องพอง ท้องหยุบกำหนดเป็นให้รู้ว่าอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ส่วนอีกหนึ่งวิธี คือ นี่แหละ สายพองหนอฯ ก็เป็นส่วนหนึ่งเล็กๆ ตามที่อธิบายการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานข้างต้น

การเดินจงกรมก็ดี หรือการทำสมาธิก็ดี ก็เป็นวิปัสสนากรรมฐานได้เหมือนกัน หากเรามีหัวใจของวิปัสสนากรรมฐาน ก็เหมือนกับการปลอกมะม่วง เราจะปลอกด้วยมีดก็ได้หรือว่าเราจะปลอกด้วยอย่างอื่นก็ได้

ประโยชน์ของวิปัสสนากรรมฐาน คือ
๑. รู้แจ้ง เห็นจริง
๒. ละความยึดมั่นถือมั่น
๓. วาง
๔. ถอน
๕. หลุด
๖. ไม่ไปยึดซ้ำ

สรุปง่ายๆ ก็คือ ถอนการจมปลัก แล้วอะไรที่ทำให้ไปจมปลัก ก็คือยึดมั่นถือมั่น

ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์

7,692







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย