ศาสนาช่วยอะไรได้บ้าง ในยุคข้าวของมีราคาแพง

     

ศาสนาช่วยอะไรได้บ้าง ในยุค เศรษฐกิจฝืดเคือง น้ำมันแพง เครื่องอุปโภค บริโภคราคาแพง โดยเฉพาะศาสนาพุทธ ช่วยอะไรได้บ้าง

ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงคนในศาสนาอื่นๆ เพราะทุกคนรู้เห็น และทราบกันดี ถึงความอยากชนะ ซึ่งกันและกัน ด้วยความโลภ ด้วยความแค้น อันไม่สามารถกล่าวถึงได้ เพราะมันจะเป็นการให้ร้ายศาสนาอื่นๆ

ดังนั้น จึงจะกล่าวถึงเฉพาะ ศาสนาพุทธ และบุคคลที่นับถือศาสนาพุทธ ทั้งหลาย ว่า หลักธรรมทางศาสนาพุทธ ช่วยอะไรประชาชนคนทั้งหลาย ได้บ้าง

ถ้าทุกคนที่เป็นคนไทย รุ้จักใช้ธรรมะทางศาสนา มาเป็นเครื่องเป็นปัจจัย เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เป็นแนวทางในการปฏิสัมพันธ์ สังคมเป็นอยู่ร่วมกัน ประชาชนคนไทยทั้งหลายล้วนต้องอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขไม่เดือดร้อน

แล้วเพราะอะไรหรือ บ้านเมืองถึงระส่ำระสาย ไม่ทุกหย่อมหญ้า สาเหตุก็เพราะหลักธรรมศาสนา ไม่สามารถจรรโลงใจ ไม่สามารถทำให้เขาเหล่านั้นเห็นดีเห็นงามไปกลับหลักธรรมทางศาสนาทำให้จิตใจมีแต่ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ไม่ได้มีความสามัคคีปรองดอง กัน ตั้งแต่ระดับ การเมืองการปกครอง จนถึงระดับรากหญ้า

ถ้าเป็นสมัยโบราณ ข้าศึก หรือฝ่ายตรงกันข้าม ย่อมถือเป็นนิมิตหมายที่จะบุกเข้าโจมตีทำลายบ้านเมืองได้โดยง่ายได้
คณะรัฐบาล ก็มัวหวง และห่วง เก้าอี้ตัวเอง เพราะรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ค่อยมีความยุติธรรมเท่าที่ควรกับพวกนักการเมือง จนพวกเขาแทบไม่ได้สนใจหรือใส่ใจ หรือ สนใจน้อยมาก โดยถือสาเหตุว่า มาจากปัจจัยภายนอก อันได้แก่น้ำมัน ซึ่งในทางที่เป็นจริงแล้ว น้ำมันนั้น เป็นเพียงปัจจัย เพียงปัจจัยเล็กๆ ที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ในการผลิตสินค้า และประกอบการต่างๆ
หลักธรรมทางศาสนา ที่สามารถช่วยทำให้บุคคลรู้จักใช้สมองสติปัญญาช่วยเหลือ หรือแบ่งเบา สภาพจิตใจ สภาพความเป็นอยู่ อันขัดสนในยุคนี้ มีอยู่หลายข้อหลายอย่าง อันสามารถทำให้บุคคลทุกระดับทุกชนชั้น มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น เข้าใจ และรู้จักเอาใจใส่ต่อตนเอง และคนรอบข้างได้เป็นอย่างดียิ่งในยุคสมัยนี้ ก็คือ
ทุกคน ควรได้มองดูตัวเองว่า ตัวเองนั้น

ครองเรือน หรือ สวมบทบาท หน้าที่เป็นอะไร สามารถที่จะให้ทาน คือช่วยเหลือ หรือสร้างนโยบาย หรือจำกัด ราคา หรือ เอากำไรพอควร ในกิจการต่างๆ

การที่บุคคลรู้และระลึกได้อยู่เสมอถึง บทบาท และหน้าที่ อันหมายถึงการครองเรือน และรู้จักใช้บทบาท และหน้าที่นั้น สร้างสรรค์ นโยบาย จำกัด ราคา หรือ เอากำไรพอควร ในกิจการต่างๆ ย่อมแสดงให้เห็นถึงสภาพสภาวะจิตใจอันมี สติสัมปชัญญะ มีธรรมะ คือ ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อันได้ชื่อว่า เป็นพุทธศาสนิกชน ที่ดี

เมื่อบุคคล รู้ และระลึกได้ถึงการครองเรือน หรือรู้และระลึกได้ ถึงบทบาท หน้าที่ของตนเอง อีกทั้งยังหมายรวมไปถึงผู้อื่น นั่นก็ย่อมหมายถึง ความสามารถ ในการที่จะบริหารงานใดใด กิจการใดใด ให้สำเร็จลุล่วง โดยมิได้ก่อความเดือดร้อนใดใดใก้กับผุ้อื่นเลย
ความเดือดร้อน ของประชาชน นั้น ย่อมเกิดจากความเป็นห่วง วิตก วิจาร เกรง จะไม่มีเงินพอใช้จ่าย ค่าขนมลูก ค่าเล่าเรียนลูก ค่าอาหารกลางวัน ค่ารถในแต่ละวัน และค่าเครื่องใช้อุปโภคบริโภค ในแต่ละวัน ในแต่ละเดือน ที่กล่าวไปนี้ จะเป็นความเป็นห่วง วิตก วิจาร ของประชาชนคนทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ หรือจะกล่าวว่าทุกครัวเรือนเลยก็ว่าได้




ศาสนาช่วยอะไรได้บ้าง ในยุคข้าวของมีราคาแพง

ช่วยให้ชนทั้งหลาย หันกลับไปดูผลกรรม(ผลงาน)ของตนเองว่า เคยทำกรรมอะไรกันไว้บ้าง
จึงต้องมีชะตากรรมเช่นทุกวันนี้..."สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม"

กรรมใครก็กรรมมันซิจ๊ะ....อะ อะ อะ อะ


๑.อุฏฐานสัมปทา
๒.อารักขสัมปทา
๓.กัลยาณมิตตตา
๔.สมชีวิตา


แค่ถือศีล ๘ ให้บริสุทธิ อย่างเดียว ก็ประหยัดค่าใช้จ่ายต่อเดือน ได้มิใช่น้อยๆแล้วน้องเอ้ย


ฯพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ส่องสว่างไว้ในตอนกลางวัน และพลันค่อยเลือนลับหายไปในยามราตรี ผ่านชั่วโมงอันยาวนานในยามข้างแรมที่ไม่มีแม้แต่แสงของดวงจันทร์ ปล่อยให้ดวงดาวประกายพฤกษ์ทำหน้าที่ส่องทางไว้ นำทางบอกไว้แก่ผู้รู้ที่รู้จักใช้ปัญญาออกเดินทางตามตำแหน่งดาว เพื่อรอคอยให้ได้เห็นพระอาทิตย์อีกครั้งฉันใด กาลแห่งการเกิด ดับ ก็หมุนเวียนเปลี่ยนมาให้ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงและการอุบัติขึ้นฉันนั้น เหตุนี้เป็นธรรมดา แม้ในสมัยที่พระพุทธองค์ถือกำเนิดท่ามกลางความแบ่งแยกแห่งชนชั้น วรรณะ ก็เพื่อเหตุให้ได้ผู้คนพบทุกข์แสนสาหัสแล้ว ได้พบกับผลความจริงแห่งความจริงที่เป็นเงาซ้อนทับอยู่ ในกรรมนำเกิด ผู้รู้มองเห็นแล้ว หาทางดับร้อนไว้ เพราะนี่คือเหตุแห่งธรรมดาของมนุษย์เหมือนคนอยู่ในน้ำ อย่างไรก็ต้องว่ายอยู่ กะพุ้งน้ำอยู่ มองหาที่พึ่งอยู่ พระธรรมที่ได้ถูกถ่ายทอดไว้จนกระทั่งวันนี้ เปรียบเหมือนที่พึ่งที่มองเห็น แต่คล้ายว่างเปล่า หากปฏิบัติแล้วจึงเห็นได้ รู้ได้ สุขใจตามประมาณการแก่ผู้รู้รักษา แลครอบครองไว้ พระธรรมในพระไตรปิฏกที่ได้รับจารไว้เป็นอักษรชื่อหนังสือ อาจซื้อหามาได้ด้วยกำลังแห่งทรัพย์ แต่ชื่อว่าผู้รู้นั้น หาซื้อได้มาจากใครไม่ ต้องซื้อไว้ด้วยความเคารพรัก และปฏิบัติไว้ด้วยตัวเอง รักษาธรรมอันเป็นเลิศข้อใดที่พระองค์ตรัสยกย่องว่าเป็นเลิศแล้ว จึงมีประดับตกแต่งไว้ได้เฉพาะตัว เพราะเหตุที่พระธรรมนั้นสูงกว่าทรัพย์ทางโลก ไม่ว่าผู้ใดมีทรัพย์ และเพชรนิลจินดา หรือทองคำบริสุทธิ์ประมาณซื้อแผ่นดินไว้ได้ แต่หาใช้ทรัพย์ซื้อชื่อว่าผู้รู้ ไว้ประดับตกแต่งตนเอง ดังแก้วแหวน ไว้ประดับตัวเองได้ไม่ เหตุนี้พระพุทธศาสนาจึงสำคัญทรงคุณค่าควรรักษาไว้ มีตกทอดรุ่นสู่รุ่นไปสู่ผู้ใดแม้ในยุคใดที่มองเห็นความระอา น่าขัดข้องแห่งการประพฤติ ปฏิบัติรักษา ดังยุคปัจจุบัน ขอจงประมาณแม้แสงแค่ดวงดาวประกายพฤกษ์ในเดือนแรม ก็ยังบอกทิศทางอันควรแก่ผู้มองหาทางอยู่ มีสติระลึกรู้ปลายทางได้อยู่ เป็นศรัทธาในพระพุทธศาสนาเก็บรักษาพระไตรปิฏกไว้สู่ผู้ที่จะได้ชื่อว่าผู้รู้อันมีจำนวนประมาณมิได้ในอนาคตแล้ว ดังเช่นที่เคยมีผู้รู้ได้เก็บรักษาไว้ เพราะเห็นเหตุแห่งอนาคต คือปัจจุบันนี้ ดังนั้นเถิดฯ


การทำมาหากินนั้น ทุกคนต้องทำไปตามหน้าที่ของการงานตนเป็นหลักไม่ควรเล็งผลเลิศเกินไป เพราะจะทำให้ใจเดือดร้อนเกินกว่าเหตุ
หลักสันโดษ (กินอยู่ตามที่เราหาได้) ถือว่าเป็นหลักการของพระพุทธศาสนาที่นำมาใช้ได้ในยุคนี้ จงอย่าฟุ่มเฟือย จงประหยัด จงขยันขึ้นอีกนิด แค่นี้ก็อยู่ได้แล้วทางกาย
ส่วนใจนั้น ก็ต้องหมั่นนึก หมั่นพิจารณา ให้เห็นตามความเป็นจริงของสิ่งทั้งหลายที่อยู่รอบข้าง หมั่นดูเข้าไปข้างในใจตนเอง ให้เวลาแก่ตัวเองวันละ ๕ นาที นั่งดูตนเอง สำรวจตนเอง เพ่งมองเข้าไปให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิดภายในของตน จงมีความรู้ตัวทั่วพร้อมในขณะนั้น หลับตาลงเบา ๆ หายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ ทำใจให้สบาย วางตัวให้สบาย กำหนดดูสิ่งที่เป็นไปภายในตน พร้อมกับทำความรู้ตัวทั่วพร้อมไป ทำอย่างนี้ได้ทุกวัน ก็จะทำให้จิตเป็นสมาธิ ความสงบสุขและปัญญาก็จะเกิดขึ้น เมื่อนั้นปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้า ก็จะสามารถแก้ได้ ทุกปัญหามีทางแก้ไข ท่านจงอย่าวิ่งตามโลก แต่จงดูตนเองให้มาก ๆ จงสังเกตุตนเอง จงรู้ตนเอง เมื่อนั้นท่านจะรู้จักสรรพสิ่งรอบข้างตามความเป็นจริง หากท่านหยุดอยู่ ท่านจะเห็นทุกสิ่งเคลื่อนไหว เมื่อท่านเห็นทุกสิ่งเคลื่อนไหว ท่านก็จะคลายความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เคลื่อนไหวเหล่านั้น ท่านจะรู้ว่า ไม่มีสิ่งใดที่ท่านสามารถจะเอาเป็นสมบัติของท่านได้ตลอดไป เราต้องละทิ้งทุกสิ่งไปแน่นอน จงอยู่กับปัจจุบัน จงอยู่อย่างผู้ดู แต่อย่าอยู่อย่างผู้ตาม แล้วท่านจะไม่เป็นทุกข์ ดำรงตนอยู่ในโลกนี้ เพื่อทำหน้าที่ของท่านให้สมบูรณ์เท่านั้น รอวันที่ท่านจะจากไปอย่างผู้ชนะ ปล่อยโลกนี้ไว้ตามที่มันเป็นอยู่


อ่านธรรมนูญชีวิต หรือ นวโกวาท ซึ่งสรุปความจากพระไตรปิฎกมีแม้การใช้เงิน 2 ส่วนเก็บไว้ 1 ส่วน ให้ทาน 1ส่วนเป็นต้น การอยู่อย่างพอเพียง มีศีล ศึกษาปฏิบัติธรรมแม้แค่เพียงที่พระท่านทำวัตรเช้าเย็นช่วยได้แน่ครับ


ช่วยยึดจิตใจเราให้มีคำว่า พอเพียง


ถือศีล ซิไม่เสียตังด้วยแถมประหยัด ศีล 5 ก็ได้ ศีล 8 ยิ่งดี เพราะ ศีลข้อ 3 กับ 5 น่ะ ในศีล 5 และ ยิ่งศีล 8 ก็ประหยัดอีกหลายข้อ คิดดูนะ คนสมัยนี้ชอบผิดศีลข้อ 3 และเสียตัว เสียตัง บ้านแตกด้วย ส่วนข้อ 5 นั้นดีเยี่ยมเลยเพราะคุมศีลทั้งหมดทุกข้อ ความเสียสติจากน้ำเมาเนี๋ยทำศีลทะลุได้ทุกข้อเลย จริงมะไม่ยากหน๊อะ แค่ 5 ข้อเองได้บุญมากโดยไม่เสียตังด้วย


 4,116 

  แสดงความคิดเห็น


RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย