ชมภาพข่าว งานตักบาตรพระอุปคุต วัดตึก จ.นนทบุรี ปี 2555
<a href="http://news.thaipbs.or.th/video/วัดตึก-จนนทบุรี-จัดงานตักบาตรพระอุปคุต">ThaiPBS Video - วัดตึก จ.นนทบุรี จัดงานตักบาตรพระอุปคุต </a>
http://www.dhammathai.org/webbokboon/dbview.php?No=3334
ไหว้สา พระธัมมวินัย สายบุญ
พระมหาอุปคุต เป็น พระภิกษุ ผู้บวชจากพระอุปปัชฌายะ ในสมัยหลังพระพุทธกาล ด้วยว่า บิดาท่านเคยบอกว่า หากได้ลูกชายจะให้บวชไว้ในพระศาสนา
ได้ลูกคนแจก เขาจะให้บวชก็เสียดายลูก พอมีลูกคนสองก็เบี้ยวอีก พอลูกคน 3 มี เจ้าสำนักท่านไม่ยอมแล้ว บิดาจำต้องยอมให้ลูกบวช
พ่อท่านเป็นพ่อค้าไม้หอม ลูกชายคนที่ 3 มีบุญเก่าปารมีหลาย การค้าขาย ของพ่อ ของครอบครัวง่าย คล่อง กำไรงาม ย้อนบุญลูกหนุนค้ำพ่อแม่
พระมหาอุปคุตโต เป็น ภิกษุผู้มีฤทธิ์มากในสมัยหลังพุทธกาล ประวัติ ว่า ท่านจำศีลภาวนาอยู่ใต้ทะเล มีร่างกายผ่ายผอม มองแล้วไม่น่าสัทธาเชื่อถือ ต่อ พระยาอโศกมหาราช ผู้ทำการสร้างพระสถูปเจดีย์ จำนวนมาก ในชมพูทวีป สมัยราว 200 ปีปลายหลังพุทธกาล คณะสงฆ์ได้ทูล ว่า ผู้สมควรยกให้เป็นประธานสงฆ์ ในการนี้ คือ ฉลองพระเจดียสถาน นาน ราว 7 ปี คือ ผู้นามว่า พระอุปคุตมหาเถระ พระเจ้าอโศกจึงได้ลองฤทธิ์ท่าน ประมาณ ว่า ปล่อยช้างมาทำร้าย แต่ ต้องสยบท่าน มหาราชเจ้าจึงได้ขอขมาพระมหาเถระ ที่ล่วงเกินท่านเอาไว้
พระยามาราธิราช เจ้าผู้ครองสวรรค์ชั้น 6 สูงสุดของสวรรคโลก ได้มาก่อกวนงานมงคลนี้ จึงถูกพระมหาเถระ เสกหมาเน่ามัดคอมาร ล่ามไว้กับดอยสูง ใคร ก็ไม่ช่วยแก้ออกได้ จึงมีคนทำรูปพระจกบาตรแหงนคอ อันเป็นการแหงนหน้าดูพระยามารผู้โดนมัด
ส่วน พระนั่งจกบาตรไม่แหงนคอ คือ พระสิวลีจกบาตร
พอจบงานฉลอง ท่านยอมปล่อยพระยามาร ทำให้เท้าเธอสำนึกผิด คิดได้ ด้วยสัญญาเก่าเคยปรารถนาพุทธภูมิ จึงกล่าวตั้งสัจจะ ตั้งใจสั่งสมปารมีมุ่งมหาโพธิสัตว์ จักเป็นพระพุทธเจ้า สืบพระพุทธวงศาในอนาคตกาละ
พระมหาอุปคุต กับ พระมาราธิราชามหาโพธิสัตว์ เป็น เจ้ากัมม์นายเวร คู่เวรกันมาก่อน สามารถปราบพยศทิฏฐิกันได้ เลยได้มาเป็นเจ้าพิธีฉลองพระมหาเจดียสถาน ในกาลนั้น แล
การตักบาตร ยามค่ำคืน เป็น การผิด ต่อ พระธัมมวินัย ของ พระบรมศาสดา เท่ากับเป็นการย่ำยีพระพุทธเจ้าผู้เจ้าของพระศาสนา ในแดนสุวัณณภูมินี้ มีในแดนเมียนมาร์ พาทำกันทั้งคนวัด คนบ้าน ดั่งพระพุทธองคเจ้าทรงทำนาย ประมาณ ว่า
ผู้ที่กระทำย่ำยี พระศาสนา ของ ตถาคต คือ คนวัด คนบ้าน คือ บริษัท ของ พระองค์นี้ นี่เอง
สัทธาพานิช ผู้เอาความเชื่อ คือ สัทธา มา หาเงิน หาทอง จาก ผู้มีสติ มีปัญญาด้อย แต่ สัทธาแรงกล้า หวังเงินทอง ่หมิ่นเหม่ อันตราย ขัดต่อคำสั่ง คำสอน ของ พระพุทธศาสดาเจ้า
หาก มีเจตนาแอบแฝง ลับ ลวง พราง ลักขโมย เข้าข่ายหลอกลวง ยิ่งผิดหนัก เป็น อาบัติใหญ่
เมืองเมียนมาร์ เมืองนี้ สัทธาแรง เป็นเมือง ที่คนวัด คนบ้าน โดนมารหลอก พระเณรชีทำอะไร ๆ คนบ้านไม่สนใจเหมือนส่งเสริม กันในทางที่ผิด ทั้ง คนหัวดำ หัวหมด ร่วมแรงร่วมใจทำไปด้วยกัน
กราบขอสมมาอภัย หาก ไปกระทบใจ ขัดใจ ขัดผลประโยชน์ ท่านผู้ใด หรือ หลายท่าน
จะเอาพระพุทธธัมมวินัย หวังเคารพนบนอบพระพุทธธัมมวินัย ให้เหนือ กิเลสโลกสมมุติ เป็น พัทธบริษัท ที่ดี ฝ่ายเทพ ฝายดี
หรือ จะเอาประเพณี ที่ผิดบิดเบือน ย่ำพระพุทธธัมมวินัย เป็น ฝ่ายมาร ฝ่ายร้าย
คิดเอง ดูตนเองได้ จาก การทำด้วย กาย วาจา ใจ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ หลายอย่าง เจตนาพระว่าเป็น กัมม์ ขาดเจตนาเบาลงมาหน่อย ก็เป็น ประมาท
สาธุ ครับ
จาก หนานธง สัทธานำปัญญา
ผลบุญ กุศล จงมีแด่ สายบุญ ในจักรวาล ฮอด อนันตจักรวาลนี้เถิด ขอส่งผลสะท้อนย้อนกลับให้ ผู้ข้าพ์สั่งสมสัทธาธิกโพธิจนสำเร็จเทอญ
สาธุ ๆ ๆ อนุโมทามิ