หนิง และกัลยาณมิตรธรรม ทุกท่าน เอาอย่างนี้แล้วกัน..........
......... พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐
สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
สุขสูตร
[๓๖๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เวทนา ๓ เหล่านี้ เวทนา ๓ เป็นไฉน
คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา ดูกรภิกษุทั้งหลาย เวทนา ๓
เหล่านี้แล ฯ
[๓๖๒] ความเสวยอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสุขก็ตาม
เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ทั้งที่เป็นภายใน
ทั้งที่เป็นภายนอกมีอยู่ ภิกษุรู้ว่า เวทนานี้เป็นทุกข์ มีความ
พินาศเป็นธรรมดา มีความทำลายเป็นธรรมดา ถูกต้องความ
สิ้นไปอยู่ ย่อมคลายความยินดีในเวทนาเหล่านั้น ด้วย
ประการอย่างนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๒
อีกนิด..........
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔
มหาวรรค ภาค ๑
เรื่องอุปกาชีวก
[๑๑] อาชีวกชื่ออุปกะได้พบพระผู้มีพระภาคเสด็จดำเนินทางไกลระหว่างแม่น้ำคยาและไม้โพธิพฤกษ์ ครั้นแล้วได้ทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคว่า ดูกรอาวุโส อินทรีย์ของท่านผ่องใสยิ่งนัก ผิวพรรณของท่านบริสุทธิ์ผุดผ่อง ดูกรอาวุโส ท่านบวชอุทิศใคร? ใครเป็นศาสดาของท่าน? หรือท่านชอบธรรมของใคร?. เมื่ออุปกาชีวกกราบทูลอย่างนี้แล้ว. พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระคาถาตอบอุปกาชีวกว่าดังนี้
เราเป็นผู้ครอบงำธรรมทั้งปวง รู้ธรรมทั้งปวง
อันตัณหาและทิฏฐิไม่ฉาบทาแล้ว ในธรรมทั้งปวง
ละธรรมเป็นไปในภูมิสามได้หมด พ้นแล้วเพราะ
ความสิ้นไปแห่งตัณหา เราตรัสรู้ยิ่งเองแล้ว จะพึง
อ้างใครเล่า อาจารย์ของเราไม่มี คนเช่นเรา
ก็ไม่มี บุคคลเสมอเหมือนเราก็ไม่มี ในโลกกับ
ทั้งเทวโลก เพราะเราเป็นพระอรหันต์ในโลก
เราเป็นศาสดา หาศาสดาอื่นยิ่งกว่ามิได้ เราผู้เดียว
เป็นพระสัมมาสัมพุทธะ เราเป็นผู้เย็นใจ ดับกิเลส
ได้แล้ว เราจะไปเมืองในแคว้นกาสี เพื่อ
ประกาศธรรมจักรให้เป็นไป เราจะตีกลองประกาศ
อมตธรรมในโลกอันมืด เพื่อให้สัตว์ได้ธรรมจักษุ.
อุปกาชีวกทูลว่า ดูกรอาวุโส ท่านปฏิญาณโดยประการใด ท่านควรเป็นผู้ชนะหาที่สุดมิได้ โดยประการนั้น.
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า บุคคลเหล่าใดถึงความสิ้นอาสวะแล้ว บุคคลเหล่านั้นชื่อว่าเป็นผู้ชนะเช่นเรา ดูกรอุปกะ เราชนะธรรมอันลามกแล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงชื่อว่าเป็นผู้ชนะ.
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว อุปกาชีวกทูลว่า เป็นให้พอเถิด พ่อ ดังนี้ แล้วสั่นศีรษะ ถือเอาทางผิดเดินหลีกไป.
เรื่องอุปกาชีวก จบ
-----------------------------------------------------
เจริญในธรรมทุกท่านครับ
... สาธุ ...
สาธุหรัย
อุปกาชีวกทูลว่า ดูกรอาวุโส ท่านปฏิญาณโดยประการใด ท่านควรเป็นผู้ชนะหาที่สุดมิได้ โดยประการนั้น.
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า บุคคลเหล่าใดถึงความสิ้นอาสวะแล้ว บุคคลเหล่านั้นชื่อว่าเป็นผู้ชนะเช่นเรา ดูกรอุปกะ เราชนะธรรมอันลามกแล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงชื่อว่าเป็นผู้ชนะ.
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว อุปกาชีวกทูลว่า เป็นให้พอเถิด พ่อ ดังนี้ แล้วสั่นศีรษะ ถือเอาทางผิดเดินหลีกไป.
เรื่องอุปกาชีวก จบ
-----------------------------------------------------
เจริญในธรรมทุกท่านครับ
นิ้งหน่อง DT01829 [16 มิ.ย. 2551 00:43 น.] คำตอบที่ 1
สาธุครับคุณนิ้งหน่องที่ยก บท"สุขสูตร" และ "เรื่องอุปกาชีวก"
คงต้องนิมนต์ท่านมหาประเสริฐ ได้เข้ามาอ่านครับ (อุ๊ป!..ขอภัยครับ)
สวัสดีครับ ท่านนิ้งหน่อง คุณหนุงหนิง คุณ team2 และกัลยาณมิตรธรรมทุกท่าน
มีความปลาบปลื้ม ปิติ ที่ได้อ่านพระไตรปิฏก สุขสูตร และอุปกาชีวก
คุณทีมครับ ขออนุญาตถามทำไมต้องให้ "ท่านมหาประเสริฐ ได้เข้ามาอ่านครับ (อุ๊ป!..ขอภัยครับ)
เจริญในธรรมครับ กัลยาณมิตรธรรมทุกท่าน
คุณหนุงหนิง ครับ พระสุตตันตปิฏก มหาวารวรรค สูตรไหนครับผม (หรือเป็นฉบับมหามงกุฏราชวิทยาลัย) กำลังศึกษาอยู่ครับ
นึกถึงหลาย ๆ ท่าน เข้ามาอ่านในกระทู้ต่าง ๆ ที่กัลยาณมิตรแนะนำ มีความรู้สึกดีครับ
ขอให้กัลยาณมิตรธรรมทุกท่านจงเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป
สวัสดีค่ะ พี่หน่อง และกัลยาณมิตรธรรมทุกท่าน
เข้ามารายงานตัวเจ้าค่ะ
ขออนุญาตไปก่อนเจ้าค่ะ
เจริญในธรรมทุกท่านเจ้าค่ะ
......................ตื่นรู้ ดูใจ.........................
ตื่น ตัวสติตั้ง ตรวจตรา
รู้ ชัดทุกอิริยา- บถเบื้อง
ดู กายจิตเวทนา ธรรมเกิด ดับพ่อ
ใจ กระจ่างสว่างเรื้อง โรจน์รุ้งรังสี
เจริญในธรรมทุกท่านเจ้าค่ะ
ขอปิดกระทู้น่ะ เจ้าค่ะ
เจริญในธรรมทุกท่านครับ
สงสัยว่า คุณหนุงหนิง ไม่ค่อยว่างใช่ไหมครับ @@@
เข้าใจ ขอให้เจริญในธรรมครับ
แม้ซ่อนกาย ในกลีบเมฆ กลางเวหา
ซ่อนกายา กลางสมุทร สุดวิสัย
จะซ่อนตัว ในหุบเขา ลำเนาไพร
ณ ถิ่นใด พ้นตาย นั้น ไม่มี
ขอบคุณ คุณหนุงหนิงมากครับผม
ไม่ต้องขออนุญาตแล้วน่ะ ครับผม
เจริญในธรรมครับ