ได้อะไรในงานศพ
ได้อะไรในงานศพ
๑. ได้แสดงความเคารพนับถือผู้ตาย
๒. ได้เห็นใจท่านเจ้าภาพ
๓. ได้ซึมซาบสัจธรรม
๔. ได้หม่ำข้าวต้ม
๕. ได้ชื่นชมของชำร่วย
๖. ได้รวยทางลัด (เอาอายุคนตายไปเล่นหวย)
สีที่ไว้ทุกข์ในสมัยโบราณ
สีดำ สำหรับผู้ใหญ่ที่แก่กว่าคนตาย
สีขาว สำหรับผู้อ่อนอายุกว่าคนตาย
สีม่วงแก่หรือน้ำเงินแก่ สำหรับผู้ที่มิใช่เป็นญาติกับคนตาย
ตกมาปัจจุบัน คงใช้สีดำเป็นส่วนใหญ่ แปลกตรงที่ว่าเรานิยมใช้สีม่วงเป็นสีไว้ทุกข์ เช่นเดียวกับชาวโรมันคาทอลิก นิยม
วันห้ามเผาศพ
๑. วันพระ เพราะเป็นวันรักษาอุโบสถ ผู้คนย่อมไม่สะดวกในการเผาศพ ลำบากแก่ผู้จะไปและการแต่งกาย
๒. วันพฤหัสบดี เพราะถือว่าเป็นวันครู ถ้าเผาศพในวันนี้ก็เท่ากับเผาครู เป็นการไม่ดี
๓. วันศุกร์ โบราณถือมาก ถือว่าเป็นวันแห่งความสุข ไม่ควรจะมีงานอันเกี่ยวแก่ความทุกข์ จึงต้องงดเว้นอย่างเด็ดขาด
ทักษิณานุปทานคืออะไร
ตามประเพณีนิยมเมื่อเผาศพ จะต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่ผู้ล่วงลับ พิธีนี้เรียกว่า ทักษิณานุประทาน หรือที่เรียกว่า ทำบุญ ๗ วัน(สัตตมวาร) ทำบุญ ๕๐ วัน (ปัญญาสมวาร) ทำบุญ ๑๐๐ วัน(สตมวาร)
เทียนทำน้ำมนต์เมื่อดับแล้วห้ามจุดอีก
เมื่อพระท่านทำพิธีทำน้ำมนต์และดับเทียนแล้ว มีเคล็ดอยู่ว่าอย่านำเทียนนั้นมาจุดอีก เพราะเวลาท่านทำพิธีดับนั้น เป็นการดับทุกข์โศกโรคภัยและเสนียดจัญไรทั้งปวง
วันโบราณห้าม
๑. ขึ้นบ้านวันเสาร์
๒. เผาผีวันศุกร์
๓. โกนจุกวันอังคาร
๔. แต่งงานวันพุธ
ทำไมจึงห้าม
วันเสาร์ เป็นวันทุกข์โศก ขึ้นแล้วจะไม่มีความสุข
วันศุกร์ เป็นวันโชคลาภ รื่นเริง มีสุข จึงมิควรเผาศพคนอยู่จะเดือดร้อน ดังคำที่ว่า เผาผีวันศุกร์ให้ทุกข์คนยัง ที่จังหวัดเพชรบุรี มีคำกลอนสอนไว้ว่า วันศุกร์ห้ามขึ้นเขา วันเสาร์ห้ามลงทะเล
วันอังคาร เป็นวันแรง มักมีอุปัทวเหตุ เลือดตกยางออก หากโกนจุกวันนี้อาจเผลอพลาด ทำมีดบาดได้ง่าย
วันพุธ เป็นวันเรรวน ไม่แน่นอน หากแต่งงานหรือหมั้นหมาย มักจะไม่ยั่งยืน
ทำไมจึงห้ามข้ามด้ายสายสิญจน์
เวลาพระเจริญพระพุทธมนต์ ท่านโยงด้ายสายสิญจน์มาจากฐานพระประธาน หากข้ามด้ายก็เท่ากับข้ามพระ (เป็นการเสียมารยาทและขาดความเคารพ)
พระพิจิตรธรรมพาที (ชัยวัฒน์ ธมฺมวฑฺฒโน)
ส่งเสริมคุณธรรม พัฒนาชีวิต นึกถึงธรรมะ คิดถึง พุทธะดอทคอม
www.พุทธะ.com
4,025