คำอธิษฐานเป็นจริงไหมครับ

 ttum    

เราแต่งงานอยู่ร่วมสุขร่วมทุกข์กันมานานร่วม 20-30-40 ปีขึ้นไป เวลอีกฝ่ายหนึ่งถึงแก่กรรมลงไป ด้วยความรักความผูกพันธ์ที่มีต่อกัน จึงตั้งอธิษฐานและบอกกล่าวเขาทั้งต่อหน้าศพหรือรูปภาพและทุกครั้งที่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปหาว่า เกิดชาติหน้าหรือชาติไหนๆขอให้ได้พบกันอีก คำอธิษฐานอย่างนี้จะเป็นจริงได้หรือไม่ครับ




ทุกสิ่งอย่างต้องมีเหตุปัจจัยครับ

การที่คนเราจะได้เจอกันต้องมีบุญบารมีเท่ากันธรรมเสมอกันศิลเสมอกัน
ทานเสมอกัน

นอกนั้นอาจจะได้เจอกันแต่คงไม่ได้อยู่ร่วมกันเสมอไปครับ


สาธุครับท่าน*8q* ขออนุญาตเพิ่มเติมครับ

เกิดชาติหน้าหรือชาติไหนๆขอให้ได้พบกันอีกคำอธิษฐานอย่างนี้จะเป็นจริงได้หรือไม่ครับ

คำอธิษฐานก็คือการตั้งเป้าหมายไว้เพื่อให้สำเร็จถึงในกิจนั้นในอนาคต ในกรณีที่ยกมาเป็นตามอธิษฐานได้ แต่
ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแห่งเวลาและปัจจัยเรื่องกรรมอีกหลายๆประการ

อันที่จริงพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้แล้วว่า สัตว์ทั้งหลายเกิดมานับภพนับชาติไม่ถ้วนแล้ว ต่างเคยเกิดเป็นพ่อแม่พี่น้อง
เกี่ยวข้องกันมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้น แม้ไม่อธิษฐานเลยก็ยังจะได้พบเจอกันอีก ตราบเท่าที่ยังไม่เป็นพระอรหันต์
การอธิษฐานเช่นนี้ มีตัณหาเป็นปัจจัยไม่เป็นกุศลครับ เพราะตั้งอยู่บนฐานของตัณหาคือความผูกพันธ์รักใคร่
ที่ถูกสนับสนุนด้วยสัสตทิฏฐิ คือเห็นว่านั่นเป็นคนรัก นี่คือเรา เราจะไปเกิดด้วยกันอีกในภพต่อๆไป ดังนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิประเภทหนึ่งครับ อันว่าจิตที่ประกอบด้วยมิจฉาทิฏฐินั้นย่อมเป็นเหตุให้ภพชาติหรือสังสารวัฏ
ยืดยาวต่อไปไม่รู้จบสิ้น

จิตปุถุชนมักมีกิเลสอยู่เป็นประจำครับ จะทำให้จิตว่างปราศจากิเลสนั้นไม่ได้ ดังนั้นให้จิตเป็นอยู่ด้วยกุศลธรรม ยังดีกว่าให้จิตเป็นอยู่ด้วยอกุศลธรรมครับ

การตั้งจิตปราถนาหลังการทำบุญ ก็เพื่อสร้างเสริมกำลังของใจ และทิศทางของใจ ให้เป็นไปหรือให้ไปในแนวทางที่เราต้องการ จะเป็นกุศล หรือเป็นอกุศล ก็แล้วแต่ ใจย่อมได้กำลังเกื้อหนุนมาจากการทำกุศลครั้งนั้น

การอธิษฐานนั้น อธิฐานให้กิเลสเพิ่มได้ก็อธิษฐานให้กิเลสลดได้เหมือนกันครับ

บางคนก็ตั้งจิปราถนาขอให้มีรูปร่างหน้าตาสวย ก็จะสำเร็จในกาลหนึ่งข้างหน้า
บางคนก็ตั้งจิตปราถนาขอให้มีทรัพย์สมบัติมาก ก็จะสำเร็จในกาลหนึ่งข้างหน้า
บางคนก็ตั้งจิตปราถนาขอให้พ้นทุกข์ พ้นจากห้วงสังสารวัฏฏ์ ก็จะสำเร็จในกาลหนึ่งข้างหน้า

แต่ความสำเร็จใน 2 บรรทัดแรก สำเร็จแล้วก็เสื่อมลงไป แต่ความสำเร็จในบรรทัดหลังนั้น เมื่อสำเร็จแล้วไม่มีเสื่อม จึงเป็นความปราถนาที่ควรจะตั้งเป็นที่สุดครับ

ที่สำคัญอธิษฐานอะไรนั้นให้คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นจริงๆด้วยนะครับ อย่าอธิษฐานอะไรที่ทำให้เกิดกิเลสกับตนเองและผู้อื่นเด็ดขาดนะครับ ในสมัยพุทธกาลมีตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้ว มีอุบาสิกาท่านหนึ่งอธิฐานว่าให้เกิดมาใครเห็นก็รัก พอโตมาแล้วพอดีมีเจ้าชาย500องค์มาเจอพร้อมกันแล้วทีนี้ก็เลยถูกตัดสินให้เป็นนางกลางเมืองใครอยากได้นาง1คืนต้องเอาทรัพย์พันกหาปนะมาแลก สรุปคือได้เป็นโสเภณีชั้นสูงในยุคนั้นด้วยกรรมที่อธิษฐานนี่แหละครับ
ที่น่ากลัวสุดคือ ประเภทที่ชอบอธิฐานให้เกิดกี่พบกี่ชาติรักกัน ได้ครองคู่กันทุกภพทุกชาติ
อันนี้ยุ่งสุดเลยครับ ไม่รู้ว่าเกิดมาชาติหน้ายังจะได้เป็นคนอยู่รึเปล่าไม่มีใครบอกได้ครับ ขึ้นอยู่กับกรรมของเขา บางคนเกิดมาเจอกันคนนึงเป็นคน ฝ่ายนึงไม่ใช่คน จะเป็นหมู หมา หรือสัตว์อื่นๆ หรือก็เจออีกฝ่ายที่เป็นสัมภเวสี บางทีได้เกิดเป็นคนทั้งคู่ เราเปลี่ยนเพศหรือฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยนเพศเนื่องจากกรรมที่ทำมา พอมาเจอกันเข้าก็เป็นเรื่องเลยครับ เห็นได้ชัดๆในสังคมยุคปัจจุบันไงครับ

สรุปนะครับ การอธิษฐานนั้น เป็นหนึ่งในบารมี10ทัศน์ พระพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าได้เพราะอธิษฐาน พระอัครสาวกที่ได้เป็นเลิศทางด้านต่างๆก็เป็นได้เพราะอธิษฐาน พระอรหันต์ก็เป็นพระอรหันต์ได้เพราะเคยอธิษฐานมาก่อนทั้งสิ้น แต่การอธิษฐานที่ผิดนั้นก่อทุกข์ให้กับผู้อธิษฐานได้เหมือนกันเลือกอธิษฐานแต่สิ่งที่ทำให้กิเลสลดหรือทำให้เอื้อต่อการสร้างความดีต่อไป แต่ต้องมีอธิษฐานกำกับกันพลาดด้วยนะครับ

เจริญธรรมครับ



อนุโมทนาครับท่านddman

เลื่อมใสๆๆ


ขอบคุณท่าน *8q* ผมเองเลื่อมใสท่านเช่นกัน และได้ประโยชน์จากข้อธรรมที่ท่าน*8q*
ยกมามากครับ ท่าน*8q*มีเมตตาในการเกื้อกูลผู้อื่นด้วยปัญญาเสมอ ขออนุโมทนาครับ



อ้อ อีกนิดนึงสำหรับคุณ ttum

อย่าคิดว่าเราได้พบเจอคนรักคนเดียวตลอดไปทุกๆชาตินะครับ บางชาติก็รักคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง แล้วถ้าเราอธิษฐานแบบนี้ในแต่ละชาติ เราก็ผุูกใจไว้กับหลายคนนะ คิดแล้วยุ่งจริงๆผมคิดแล้วกลัวแทนครับ

การกระทำทุกๆอย่างทั้งกายวาจาใจคือเจตนา เมื่อมีเจตนาก็มีกรรมครับเมื่อมีกรรมก็มีผลของกรรม หรือวิบาก
การทำกรรมนั้น นอกจากจะได้วิบากแล้ว ยังได้อุปนิสัยมาด้วย อย่างการอธิษฐานนี้ ไม่ใช่เพียงชาตินี้ชาติเดียวดอก
ครับที่ทำ แต่คงสั่งสมมาแล้วมากชาติจนเป็นนิสัย ทำให้เมื่อประจวบเหตุปัจจัยเหมาะสมก็จะทำซ้ำๆจนแก้ยาก
นะครับ

ผมเองได้อธิษฐานขอถอนคำอธิษฐานใดๆที่จะเป็นไปเพื่อการมีชีวิตคู่กับใครๆที่เคยอธิษฐานมาก่อนทั้งในปัจจุบันและอดีตชาติทั้ง
หมดขอให้ต่างคนต่างเดินไปครับ เวลานี้ผมอธิษฐานให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพานตามคำสอนของ
พระพุทธเจ้าเท่านั้น ไม่เอานิพพานนอกคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ


ไม่ถามก็ไม่รู้จริงๆ เมื่อตายไปแล้วถือว่าสิ้นสุดจากกัน ไม่ต้องมาผูกมัดกันด้วยคำอธิษฐาน ต่างคนต่างไปนั้นเห็นด้วยแล้วมากๆ ขอขอบคุณที่ให้ความความกระจ่างครับ


สาธุ


 4,186 

  แสดงความคิดเห็น


RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย