ได้อ่านหนังสือดีอยากให้คนที่มีปัญหาได้ลองอ่าน

 Salim    

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้ไปงานหนังสือเจอหนังสือเล่มนึงปกโดนใจเลยลองซื้อมาอ่าน
เรื่อง " อโหสิกรรมดับทุกข์ทันตา " ของ ว.วิสุทธิสารี ดีมากๆ ในหนังสือเค้าบอกว่าเมื่อก่อนเราไปทำอะไรมาชาตินี้ถึงได้เป็นอย่างนี้ เช่น ไม่สวย เมื่อยล้า เป็นอัมพาต ถูกหลอกไปฆ่า ถูกไฟลวก หลงป่า ยากจน ฯลฯ แล้วเค้าก็บอกวิธีแก้ว่าต้องทำยังไง ให้ดีขึ้น เราอ่านรวดเดียวจบเลย ดีมากๆ ทำให้เราคิดอะไรได้มากมาย อยากให้เพื่อนๆที่มีความทุกข์หรือโกรธใครอยู่ลองหาอ่านดู หน้าปกจาเป็นสีเหลืองทองมีมือแบบปางห้ามญาติอะ ของสนพ. บ้านหนังสือโกสินทร์ มีหนังสือดีช่วยบอกต่อด้วยนะ บางทีหนังสือก็แก้ปัญหาได้ดีทีเดียว




สาธุครับ


ในพระไตรปิฏกก็มีการพูดถึงวิบากของกรรมต่างๆปรากฏอยู่มากมาย
คล้ายๆในลักษณะดังกล่าว
ว่าทำอะไรแล้วได้รับผลอย่างไร

แต่เพราะในพระไตรปิฏกนั้น พระพุทธเจ้าเป็นผู้พูด ท่านพูดกับบุคคลต่างๆ ในกาละ เทศะต่างๆ
เฉพาะเจาะจงลงไปที่ตัวบุคคลนั้นๆ

พระพุทธเจ้า ท่านมีญานหยั่งรู้ว่าเขาทำอะไร จึงได้อะไร
ท่านหยุ่งรู้เรื่องราวของคนคนนั้นได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ท่านจึงทราบสิ้นว่าคนคนนั้นเคยเกิดมาเป้นอะไร ทำอะไรไว้เมื่อไหร่ จึงได้ผลอย่างไร

มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ที่ท่านจะบอกเราได้ว่า
ผลของกรรมที่เรากำลังได้รับอยู่นี้ เกิดจากอะไร อย่างไร ตั้งแต่ตอนไหน

แม้พระอรหันต์ก็มีความสามารถจำกัดในเรื่องนี้


ดังนั้น การอ่านมาว่า วิบากรรมหรือผลของกรรมที่รับอยู่นี้ เกิดจากอะไรนั้น
พวกเราแค่อาศัยการเทียบเคียงเฉยๆ
ไม่ใช่ความจริง หรือ ปรมัตถะ
ไม่เหมือนกับการที่พระพุทธเจ้ามาบอกเรา หยึ่งรู้ให้เราฟัง

พูดง่ายๆว่า เรื่องที่อ่าน หรือได้ฟังมา ว่าทำอย่างนั้น ได้รับผลอย่างนี้ นั้น
เป็นรูปแบบการเทียบเคียงจากพระสูตรต่างๆ
ไม่ใช่ความแน่นอนตายตัวว่าทำอย่างนั้น ได้อย่างนี้
เพราะในความเป้นจริงนั้น เจตนาที่ทำกรรมต่างๆ ทั้งกรรมดี กรรมไม่ดี
ล้วนแล้วแต่มความบริสุทธิ์ไม่เท่ากัน

บางคนทำดีอย่างที่อ่านมา ฟังมา แล้วคิดไปว่าตัวเองจะได้อย่างนั้น
ก็เลยไปทำบ้าง หวังอยากได้อย่างนั้บ้าง ... ซึ่งผลลัพธ์มันไม่ได้อย่างนั้นเสมอไป


สิ่งที่มากที่สุด ที่เราได้จากการอ่านคือ
เราแค่รู้ว่าระบบกรรมนั้นมีจริงก็พอ
ช่วยให้เราพึงระวังสังวรณืในการกระทำ การคิด การพูด ให้ชอบด้วยธรรมก็พอ

ไม่พึงเชื่อถือเลื่อมใสตายตัวลงไปว่า ที่ได้ผลอย่างนี้ เพราะชาติที่แล้วทำอย่างนั้น
ซึ่งเป็นความคาดเดาที่เกิดจากการเทียบเคียงเอาเองของเราๆท่านๆ
ไม่ใช่ว่ามีผู้รู้แจ้งอย่างพระพุทธเจ้ามาบอกเรา

อย่างไรก้ตาม มหลายแห่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระไตรปิฏก ว่าทำอย่างนั้น ได้อย่างนี้
ซึ่งคนตรัสคือพระพุทธเจ้า ท่านย่อมไม่โกหก และเราเชื่อความเป็นพระพุทธเจ้าของท่านได้
จึงพึงเชื่อในสิ่งที่พระองค์ตรัสออกจากพระโอษ ที่ปรากกในพระไตรปิฏกจะดีกว่า
ไม่พึงเชื่อถือในความคิดปรุงแต่งต่างๆนาๆของปุถุชนด้วยกัน




ถ้าผมถามว่ากรรมอะไรได้เป็น นีล อาร์มสตรอง
นักบินอวกาสคนแรกที่เหยียบดวงจันทร์

คงหาคนรู้จริงตอบให้ไม่ได้ เพราะยุคก่อนหน้าที่ นีล จะเหยีบดวงจันทร์
ไม่มีกรรมอะไรที่จะให้ผลเป้นนีล อาร์มสตรองที่เหยียบดวงจันทร์

คงได้แต่เทียบเคียงคาดเดาไปต่างๆนาๆว่า คงทำอย่างนั้ คงทำอย่างนี้ ถึงได้มาเป้นนีลอาร์มสตรอง
ทั้งๆที่ความจริงอันแท้จริง ไม่มีใครรู้ได้เลยนอกจากพระพุทธเจ้า

ดังนั้น ท่านจึงตรัสไว้ในอจินติตสูตร ว่า อย่าไปคิดเรื่องว่ากรรมที่รับอยู่นี้ เกิดจากอะไร

อจินติตสูตร
[๗๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ ประการนี้ อันบุคคลไม่ควรคิด
เมื่อบุคคลคิดพึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน

อจินไตย ๔ ประการเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย

- พุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ๑
- ฌานวิสัยของผู้ได้ฌาน ๑
- วิบากแห่งกรรม ๑
- ความคิดเรื่องโลก ๑

ดูกรภิกษุทั้งหลายอจินไตย ๔ ประการนี้แล ไม่ควรคิด
เมื่อบุคคลคิด พึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน ฯ



 3,972 

  แสดงความคิดเห็น


RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย