แนะแนวทางผมด้วยครับ

 jakkarin    

ผมเองเพิ่งได้ศึกษาธรรมะอย่างจริง ๆ แค่ปีกว่าเองครับ โดยเรียนรู้จากสื่อธรรมะที่นี่ อ่านข้อคิดหลักธรรมและนำไปปฏิบัติ ชอบฟังธรรม และนั่งสมาธิครับ จนรู้สึกว่าได้รับสิ่งดี ๆมากมายครับ จนช่วงหลัง ๆนี้ผมก็พยายามบอกกล่าวกับคนใกล้ชิดเสมอ ที่สำคัญที่สุด คือ พ่อกับแม่ผมนี่เอง ในชีวิตบั้นปลายของท่านทั้งสองผมก็อยากให้เขาอยู่อย่างสบาย ดำเนินชิวิตด้วยธรรมะครับ

ก่อนนั้นตอนเด็ก ๆ แม่ผมชอบเล่นไพ่ ซื้อหวยเหมือนชาวบ้านทั่ว ๆ ไป ตั้งแต่เด็กจนป่านนี้ทำให้ผมไม่ชอบทั้งสองอย่างนั้น พ่อผมก็ชอบกินเหล้า ตอนนี้ผมก็ไม่กินเหล้า แต่ไม่ได้หมายความว่าพ่อกับแม่ผมจะเป็นคนที่ไม่ดีอะไรมากนักนะครับ กลับกันเขาก็เชื่อมั่นในพระพุทธศาสนามาก แม่ผมก็ชอบไปทำบุญที่วัดทุกครั้งถ้าได้กลับบ้านนอก ชอบไปถือศีลที่วัดกับชาวบ้านเป็นประจำ พ่อผมก็เคยบวชได้พรรษามาเมื่อตอนยังหนุ่ม รู้หมดว่าเป็นพระต้องทำอะไรบ้าง ท่านก็ได้แนะนำผมตอนผมบวชเหมือนกัน สรุปคือพ่อแม่ผมก็ใช้ชีวิตแบบชาวบ้านแถบอิสานโดยทั่ว ๆไป คือ พอมีอายุมาก ๆ หน่อยก็เข้าวัด ทำบุญตามประเพณี ซึ่งผมก็เห็นว่าดีอยู่พอควร แต่ที่ผมแปลกใจก็คือทำไมพวกเขาเหล่านั้นยังละสิ่งที่เป็นอบายมุขพื้นฐานกันยังไม่ได้เลย เช่นการพนัน กินเหล้า ลักขโมย เรื่องสมาธิ สติ ภาวนานี่ก็ไม่ค่อยเห็นครับ แต่พ่อกับแม่ผมเขาก็เป็นคนขยันมาก ๆนะครับ เรื่องงานนี่ไม่เคยหวั่น แต่ในความคิดของผมเห็นว่าธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นดีและมีคุณค่ามากกว่านั้นครับ

คำถามผมก็คือ

1. ทำไมพระอาจารย์แถวบ้านผม โดยส่วนใหญ่แล้วท่านจะสอนในเรื่องศีลธรรม เทศก์สอนในเรื่องศีลเรื่องทาน หรือนิทานธรรมะครับ แต่เรื่องปรมัตถธรรมนั้นมีน้อยมาก โดยเฉพาะเรื่องสมาธิ สมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน หรือว่าจุดประสงค์แท้จริงของพระพุทธศาสนา หรือท่านเห็นว่าแม้สอนไปชาวบ้านก็ยังต้องดำรงชีวิตแบบชาวบ้านอยู่ดี คือ ยังอาศัยการเลี้ยงสัตย์ หาปลา หาอาหารตามวิถีชาวบ้านเหมือนเดิม

2. ผู้เป็นลูกนั้นสามารถ แนะนำหรือสอนพ่อแม่ของตนได้หรือไม่ครับ

3. ทำไมธรรมะเรื่องเดียวกัน คนจึงเข้าใจได้ไม่เท่ากันครับ อย่างเช่นคนนึงเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมธรรมดา แต่อีกคนเข้าใจว่าเป็นธรรมะที่ลึกซึ้ง และคนที่พูดต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ๆ แล้วเราจะทำให้เขาเข้าใจความลึกซึ้งนั้นได้อย่างไร มีอะไรทำให้เขาไม่เอะใจในเรื่องนั้นว่าเป็นธรรม หรือว่าความเข้าใจในธรรมะนั้นแต่ละคนมีได้ไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่กับอะไรครับ

4. ผมบอกให้แม่เลิกซื้อหวย เพราะเห็นว่าไม่มีอะไรดีขึ้น และเสียเวลาชีวิต โดยบอกให้แม่ค่อย ๆลดลง(แม่ผมชอบซื้อทีละมากๆ ถูกก็ดีใจ...ถูกกินก็ทำเป็นเฉย) และหนีออกจากความเคยชิน ทั้ง ๆที่ผมก็การงานมั่งคงมาก เลี้ยงดูพ่อแม่ ญาติพี่น้องได้อย่างสบาย ๆ พักหลังผมถามบ่อยเข้าๆ จนแม่โกรธผม และบอกว่าไม่ต้องมาสอนแม่(ก่อนนี้ผมเคยบอกให้พ่อเลิกกินเหล้าได้สำเร็จครับ และสุขภาพดีขึ้นมาก) ผมจะแนะนำเขาได้ยังไงครับ

5. แม่ผมเป็นคนขี้บ่น โกรธง่ายโมโหเร็ว มีอัตตาสูง และไม่ชอบฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ผมจะทำยังไงครับให้เขาเป็นคนใจเย็นลง มีสติมากขึ้น



อยากให้ทุกๆท่านที่มีคำแนะนำดี ๆ หรือ หลักธรรมที่ช่วยได้ ช่วยแนะนำด้วยครับ
เพราะผมก็ยังไม่ค่อยรู้อะไรมาก และจนปัญญาจริง ๆ กับข้อที่ 4 ที่ 5 ครับ

ขอบคุณมากครับ

   




สวัสดีค่ะคุณจักรินทร์

ชาวบ้านในอดีตถูกสอนให้นับถือผีมาก่อนช้านานแล้วนะค่ะ เรียกว่า
ถูกปลูกฝัง(อบรม)แบบนี้มา การดื่มกิน ล้มวัว ล้มควาย ก็เพื่อสังเวยผี ผีที่ไหนหละคะ
ไอ้ที่ดื่มกินจริงๆ ก็ชาวบ้านนี่หระ.. แล้วยิ่งผู้นำชุมชน ส่วนมากถูกระบบทุนนิยมครอบงำ ก็ต้องมอมเมาให้ลูกบ้านเชื่อว่า การประพฤติเช่นนี้ เป็นวิถีชาวบ้าน เป็นประเพณี เป็นวัฒนธรรมของชาวบ้านไป จะได้ปกครองง่าย ยึดที่นาทำกินได้ง่าย.. จะเห็นว่า
สิ่งมอมเมาทั้งหลาย ล้วนมีผู้นำชาวบ้านเป็นนายทุน หรือไม่ก็ได้รับผลประโยชน์
ก้อนโตจากนายทุนแทบทั้งสิ้นค่ะ

ต่อมา ระบบทุนนิยมแพร่หลาย รัฐส่งเสริมให้แต่ละจังหวัด แต่ละชุมชน รื้อฟื้นประเพณี
จะเรียกว่า ประยุกต์ ปั้นแต่งประเพณีขึ้นมาใหม่ก็ว่าได้..เพื่อให้เงินไหลเข้าสู่ จว. และ
ชุมชน เพื่อความมั่งมีศรีสุข(ว่าแบบนั้น) จึงจัดระบบการท่องเที่ยวโดยชูการละเล่นทั้งๆ
ที่เป็นอบายมุข ไปในทางเสื่อม ก็ยกว่าเป็นประเพณี เพื่อให้คนแห่แหนกันมามากๆ
เน้นความสนุกสนาน ทั้งดื่มกิน ล้มวัว ล้มควาย และไถลไปเป็นการพนัน รวบยอดให้
มีความเชื่อว่านั้นคือ ประเพณีวัฒนธรรมโบราณ ต้องสงวนรักษาไว้..

ส่วนความเชื่อในทางพุทธศาสนาของชาวบ้าน ก็เน้นไปที่อามิสบูชา ไปทางทาน
เพื่อโชคลาภ เพื่อไปสวรรค์ เพราะง่ายต่อการเข้าใจของชาวบ้าน

พระสงฆ์ที่บวชอยู่ ส่วนใหญ่ก็ลูกชาวบ้านแถบนั้น ยกตัวอย่างนะคะ ไม่ได้หมายถึง
ทั้งหมดที่เป็นอยู่ ..คนไหนเกเร เรียนหนังสือไม่เก่ง ก็ให้บวช บวชตามประเพณีบ้าง
บวชแก้บน ฯ ไม่ได้บวชเพื่อเรียน ศึกษาและปฏิบัติธรรม เพราะขาดศรัทธา
ขาดฉันทะที่จะเข้ามาพาตน และพาหมู่ญาติพ้นทุกข์ได้

ธรรมะเพื่อการพ้นทุกข์นั้น เป็นของยากค่ะ เพราะต้องฝืนตัณหา ฝืนความอยาก
ต้องฝืนกระแสโลก ดังนั้นผู้ที่เคยสั่งสมบุญทางธรรมมามาก.. จึงจะหันเข้ามาศึกษา
และปฏิบัติได้ค่ะ


ต้องบอกว่า..เหล่านี้ เป็นปัจจัยที่เห็นและเข้าใจได้ค่ะ ส่วนเหตุหนึ่งนั้นคือ "อกุศลวิบากกรรม"ค่ะ
เพราะคนที่ลุ่มหลงมัวเมา ก็เพราะเขาเคยกระทำกรรมมอมเมา ลุ่มหลงมาก่อน ต้องมาเวียนตาย
เวียนเกิดมาร่วมวัฏฏะสงสารกันแบบนี้ ในถิ่นเดียวกัน..มีจำนวนน้อยนิดค่ะ ที่ยังมี กุศลวิบาก
ให้หลุดจากวงโคจรของการทำความเสื่อมเช่นนี้ได้ ต้องมีกุศลวิบากแบบคุณ

ปถุชน ล้วนมีอวิชชาเป็นปัจจัย มีอกุศลมูล(โลภะ โทสะ โมหะ)เป็นเหตุค่ะ
จึงเป็นการง่าย ที่จะลุ่มหลงสิ่งที่มากระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ...
อยู่ที่ปัญญาซึ่งเป็นกุศลที่ติดมาในอดีต และกุศลในปัจจุบัน(เช่นการคบบัณฑิตเป็น
กัลยาณมิตร การอยู่ในถิ่นดี สถานภาพรูปขันธ์ที่สมบูรณ์)ที่จะเป็นปัจจัยให้หันเข้า
มาสู่ทางปัญญาทางธรรมได้มากน้อยเพียงไร

คุณพ่อ และคุณแม่ ทั้งสองของคุณ ก็นับว่ายังมีบุญที่ได้รูปขันธ์สมบูรณ์ อยู่ในถิ่นที่
ดีในแง่ไม่มีสงคราม แต่ท่านไม่คบบัณฑิตเป็นมิตร กลับไปอยู่ในหมู่ของคนพาล(หมาย
ถึงพาไปแต่ทางเสื่อม)นะค่ะ

ท่านมีบุญที่ได้คุณเป็นลูก คุณจึงนับว่า เป็นกัลยาณมิตรของท่าน แต่เพราะความ
เป็นลูก ท่านจึงถือมานะไม่ค่อยจะเชื่อฟังนะค่ะ

คุณต้องใช้ความอดทนนะคะ ต้องมีอุบายในการให้ท่านเข้ามาทางธรรม
อย่าตำหนิ หักหาญท่าน เพราะท่านเป็นแบบนี้มานาน เสพสิ่งเหล่านี้มานาน
จะให้ปฏิบัติเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ คงเป็นไปได้ยากค่ะ
..คุณลองเลือกสรรซีดีธรรมะให้ท่านฟัง พาท่านไปฟังธรรม(หาวัดที่มีเทศน์ธรรมะ)
หามิตรที่ดีให้ท่าน ฯลฯ.. (คุณลองหาคลื่นวิทยุ สังฆทานธรรม ในจังหวัดที่คุณแม่คุณ
อยู่นะคะ โทร.ไปถามคลื่นเบอร์นี้ค่ะ 02-4470799 เป็นคลื่นธรรมะที่เปลี่ยนคนให้
มาทางธรรมได้มากที่สุดค่ะ นับว่าเป็นสถานีวิทยุที่เป็นกัลยาณมิตรให้ท่านได้)


หากพาท่านมาสู่ทางธรรมได้ พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า เป็นบุตรกตัญญูกตเวที
ได้ตอบแทนคุณบิดามารดาได้ถึงที่สุดแล้วค่ะ

อนุโมทนาในกุศลเจตนาของคุณด้วยค่ะ
ขอให้เจริญในธรรม รักษาความสุข-สงบภายในตลอดไปค่ะ


• ลำดับคำกลอน ๑ พัน ๕

• บุญ ความหมายโดยพยัญชนะ คือ ธรรมชาติเป็นเครื่องชำระสันดานแห่งตน

• คนระลึกชาติได้ (สาเกตชาดก)

• เสียงสวด พระปริตร - สมเด็จพระญาณสังวร

• มูลนิธิบ้านอารีย์เชิญน้องๆ เข้าร่วมกิจกรรม“อาทิตย์สุขสันต์ ณ บ้านอารีย์”

• ทรงเปิดโลกเสด็จลีลาลงจากดาวดึงส์สวรรค์

RELATED STORIES




จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย