การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีการประชุมเพื่อสดุดีและถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจะเปิดให้ผู้แทนประเทศต่างๆ ขึ้นกล่าวสดุดี ซึ่งการจัดประชุมในลักษณะนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษที่มีขึ้นไม่บ่อยนัก โดยการประชุมในครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 10.00 น. ตามเวลาในสหรัฐฯ หรือ 21.00 น. ตามเวลาในไทย
ก่อนที่จะมีการกล่าวสดุดี ปีเตอร์ ธอมป์สัน ประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (United Nations General Assembly)ได้นำกล่าวไว้อาลัย ยกย่องพระราชกรณียกิจของพระองค์ และกล่าวยกย่องเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง การเกษตร
และกล่าวว่า ตลอดเวลาที่พระองค์ครองราชย์มายาวกว่า 70 ปี ทรงได้รับคำกล่าวขวัญ คำชมจากทั่วโลก ได้รับการทูลเกล้าฯ จากองค์กรต่าง ๆ มากมาย และพระองค์ยังเป็นที่รักของประชาชนชาวไทยอย่างมากมายและยาวนาน ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทย พระราชกรณียกิจ พระราชดำรัส หรือ กระแสรับสั่งในทุกเรื่อง ล้วนแล้วแต่เป็นประโยช์อย่างสูงของชาวไทย
จากนั้นเขาได้ขอให้ที่ประชุมร่วมยืนสงบนิ่ง 1 นาทีเพื่อไว้อาลัยต่อการสูญเสียพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก
เลขาธิการ UN บัน คี มุน ยกย่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่า พระองค์ทรงเป็นที่รักทั้งคนไทยและประชาชนทั่วโลก ตลอดเวลาของการครองราชย์ทราบถึงการทรงงานหนักของพระองค์ ซึ่งเห็นได้ชัดจากการแสดงความอาลัยของประชาชนชาวไทยตลอดหลายวันที่ผ่านมา พระองค์ทรงงานหลายด้าน เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงในหลายด้าน นอกจากนี้ยังทรงดำเนินโครงการพัฒนาอย่างยั่งยืนหลายโครงการ และสหประชาชาติได้ทูลเกล้าถวายฯ รางวัลแห่งความสำเร็จชั่วชีวิตด้านการพัฒนามนุษย์ จากสหประชาชาติ ในปี 2549 และเป็นรางวัลที่สหประชาชาติมอบให้เป็นครั้งแรกของโลก
จากนั้นก็เป็นตัวแทนของแต่ละภูมิภาคได้กล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
อย่างประธานภูมิภาคละตินอเมริกา กล่าวถึง ความดีของพระองค์ที่ทรงบำเพ็ญประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทย และหลายประเทศ หลักปรัชญาความคิด การดำเนินชีวิตในแบบพอเพียง
ส่วนประธานภูมิภาคตะวันออกกลางจากคูเวต กล่าวแสดงความอาลัย และกล่าวว่า ประเทศไทยได้พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่พระองค์ทำให้ประเทศมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมาโดยตลอด เพราะพระองค์เป็นเสาหลักในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
แมทธิว ไรครอฟท์ ผู้แทนถาวร ตัวแทนยุโรป กล่าวเทิดพระเกียรติพระปรีชาสามารถของ #KingBhumibol ด้านดนตรีและศิลปะ ทูตไนเจอร์ ตัวแทนแอฟริกา บอกว่าการสูญเสียในหลวง ร.๙ ไม่เพียงแต่เป็นการสูญเสียของไทย แต่ยังเป็นการสูญเสียของโลกอีกด้วย “This loss is not only the loss of Thailand but also the loss of the world.”
และคำกล่าวของ ซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ เป็นที่ประทับใจทีมงาน BrandAge Online ประทับใจมากที่สุด เพราะเธอได้ศึกษาโครงการต่างๆ ที่พรองค์ได้พระราชทานให้กับคนไทยแล้วนำมาอธิบายได้เป็นอย่างดี
เธอกล่าวว่าตอนหนึ่งว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงอุทิศพระองค์โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เห็นได้จากการเสด็จพระราชดำเนินไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และทรงดำเนินโครงการพัฒนาหลากหลายโครงการ เพื่อช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ โดยในระหว่างที่เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนพสกนิกรนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพบปะกับประชาชนในระดับรากหญ้า ทั้งชาวไร่ชาวนา ชาวประมง นักเรียน ครู ตำรวจ เพื่อทรงรับทราบและแก้ไขปัญหาที่เกิดกับราษฎรของพระองค์
โครงการแก้มลิง ซึ่งเป็นแนวคิดในพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย ซึ่งไทยยังคงดำเนินตามแนวพระราชดำริดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน และเป็นที่ชัดเจนว่าแนวพระราชดำริของพระองค์นั้นเหมาะสมที่จะนำมาใช้ในประเทศไทย
“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงอุทิศพระองค์โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพราะพระองค์ทรงถือว่าพสกนิกรชาวไทยคือครอบครัวของพระองค์ นับเป็นความโชคดีของคนไทย และคนทั่วโลกที่ได้เรียนรู้แนวทางการดำเนินชีวิตจากพระองค์”
ปิดท้ายด้วย วีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก กล่าวขอบคุณผู้แทนภูมิภาคต่างๆ ที่ขึ้นกล่าวสดุดี และระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนามนุษย์โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง และเป็นที่มาของโครงการพระราชดำริกว่า 4 พันโครงการ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน นำไทยจากประเทศด้อยพัฒนาขึ้นสู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลางนอกจากนี้พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนาโดยเฉพาะช่วง 50 ปีที่แล้ว เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด การปลูกฝิ่น นำไปสู่การพัฒนาพื้นที่เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน
แหล่งที่มา เพจ บีบีซีไทย – BBC Thai /facebook คุณ Jaroensook Pone Limbanchongkit
ขอบคุณภาพประกอบจาก เพจ บีบีซีไทย -BBC Thai
.
ที่มา : http://www.brandage.com/king-of-king-un/